คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
รัฐบาลพลัดถิ่น
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
รัฐบาลพลัดถิ่น (อังกฤษ: government in exile) เป็นกลุ่มการเมืองซึ่งอ้างตัวเป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐเอกราชรัฐหนึ่ง แต่ไม่อาจใช้อำนาจตามกฎหมายในรัฐนั้น และจำต้องพำนักอยู่นอกรัฐดังกล่าว[1] รัฐบาลพลัดถิ่นมักคาดหวังว่า วันหนึ่งจะได้กลับคืนบ้านเมืองและครองอำนาจอย่างเป็นทางการอีกครั้ง รัฐบาลพลัดถิ่นต่างจากรัฐตกค้าง (rump state) ตรงที่รัฐตกค้างยังสามารถควบคุมส่วนหนึ่งส่วนใดในดินแดนเดิมได้อยู่[2] เช่น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แม้จักรวรรดิเยอรมันเข้ายึดครองประเทศเบลเยียมได้เกือบทั้งประเทศ แต่ประเทศเบลเยียมและพันธมิตรยังครองภาคตะวันตกซึ่งเป็นส่วนน้อยของประเทศได้อยู่ จึงชื่อว่าเป็นรัฐตกค้าง ถ้าเป็นรัฐบาลพลัดถิ่นจะตรงกันข้าม คือ ไม่สามารถครอบครองดินแดนไว้ได้เลย
รัฐบาลพลัดถิ่นมักมีขึ้นในช่วงการรบซึ่งดินแดนถูกยึดครองไป หรือมักเป็นผลมาจากสงครามกลางเมือง การปฏิวัติ หรือรัฐประหาร เช่น ระหว่างที่เยอรมนีขยายดินแดนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลยุโรปหลายชาติได้เข้าลี้ภัยในสหราชอาณาจักรเพื่อไม่ตกอยู่ในกำมือพวกนาซี รัฐบาลพลัดถิ่นยังอาจจัดตั้งขึ้นเนื่องจากเชื่อถือกันอย่างกว้างขวางว่า รัฐบาลซึ่งกำลังผ่านบ้านครองเมืองอยู่นั้นขาดความชอบธรรม เช่น หลังเกิดสงครามกลางเมืองซีเรีย พันธมิตรกองทัพปฏิวัติและฝ่ายค้านซีเรียแห่งชาติ (National Coalition for Syrian Revolutionary and Opposition Forces) ได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยมุ่งหมายจะล้มล้างการปกครองของพรรคบะอัธ (Ba'ath Party) ซึ่งกำลังอยู่ในอำนาจ
รัฐบาลพลัดถิ่นจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ เบื้องต้นขึ้นอยู่กับว่า ได้รับการสนับสนุนมากหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนจากรัฐบาลต่างชาติหรือจากพลเมืองประเทศตนเอง รัฐบาลพลัดถิ่นบางชุดกลายเป็นกองกำลังอันน่าเกรงขาม เพราะสามารถท้าทายผู้ปกครองประเทศนั้น ๆ ได้อย่างฉกาจฉกรรจ์ ขณะที่รัฐบาลพลัดถิ่นอื่น ๆ ส่วนใหญ่มักมีสถานะเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น
ปรากฏการณ์รัฐบาลพลัดถิ่นมีมาก่อนคำว่า "รัฐบาลพลัดถิ่น" จะได้รับการใช้จริง ในยุคกษัตริย์ พระเจ้าแผ่นดินหรือราชวงศ์ที่ถูกอัปเปหิเคยตั้งราชสำนักพลัดถิ่น เช่น ราชวงศ์สจวร์ตซึ่งถูกโอลิเวอร์ ครอมเวล (Oliver Cromwell) ถอดจากบัลลังก์ ก็ไปตั้งราชสำนักพลัดถิ่น และราชวงศ์บูร์บง (House of Bourbon) ก็ทำเช่นเดียวกันในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสและช่วงนโปเลียน (Napoleon) เถลิงอำนาจ ครั้นเมื่อระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญแพร่หลายขึ้น รัฐบาลกษัตริย์พลัดถิ่นก็เริ่มมีนายกรัฐมนตรีด้วยเหมือนกัน เช่น รัฐบาลพลัดถิ่นเนเธอร์แลนด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองตั้ง Pieter Sjoerds Gerbrandy เป็นนายกรัฐมนตรี
Remove ads
รัฐบาลพลัดถิ่นในปัจจุบัน
สรุป
มุมมอง
รัฐบาลชุดปัจจุบันที่มองว่าเป็น "รัฐบาลพลัดถิ่น"
รัฐบาลเหล่านี้เคยควบคุมดินแดนที่อ้างสิทธิ์ทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ แต่ยังคงควบคุมส่วนเล็ก ๆ ต่อไป และยังคงเรียกร้องอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายของดินแดนทั้งหมดที่พวกเขาเคยควบคุมอย่างเต็มที่
รัฐบาลที่ถูกขับไล่ของรัฐปัจจุบัน
รัฐบาลพลัดถิ่นเหล่านี้ก่อตั้งโดยรัฐบาลที่ถูกปลด ซึ่งยังคงอ้างสิทธิ์โดยชอบธรรมของรัฐที่เคยควบคุม
รัฐบาลที่ถูกขับไล่ของรัฐในอดีต
รัฐบาลพลัดถิ่นเหล่านี้ก่อตั้งโดยรัฐบาลที่ถูกปลด ซึ่งยังคงอ้างอำนาจโดยชอบธรรมของรัฐที่พวกเขาเคยควบคุมแต่รัฐนี้ไม่มีอยู่แล้ว
ขับไล่รัฐบาลของดินแดนส่วนภูมิภาค
รัฐบาลพลัดถิ่นเหล่านี้อ้างสิทธิ์ในดินแดนปกครองตนเองของรัฐอื่นอย่างชอบธรรม และก่อตั้งโดยรัฐบาลหรือผู้ปกครองที่ถูกขับไล่ ซึ่งไม่ได้อ้างเอกราชเป็นรัฐเอกเทศ
รัฐบาลทางเลือกของรัฐปัจจุบัน
รัฐบาลเหล่านี้ก่อตั้งขึ้นโดยพลัดถิ่นโดยองค์กรการเมือง และพรรคฝ่ายค้าน ปรารถนาที่จะเป็นผู้มีอำนาจปกครองจริงหรืออ้างว่าเป็นผู้สืบทอดทางกฎหมายต่อรัฐบาลที่ถูกปลดก่อนหน้านี้ และได้รับการก่อตั้งเป็นทางเลือกแทนรัฐบาลที่ดำรงตำแหน่ง
รัฐบาลทางเลือกแบ่งแยกดินแดนของดินแดนย่อยในปัจจุบัน
รัฐบาลเหล่านี้ถูกก่อตั้งโดยกลุ่มการเมือง พรรคฝ่ายค้าน และขบวนการแบ่งแยกดินแดน และปรารถนาที่จะเป็นผู้มีอำนาจปกครองดินแดนของตนในฐานะรัฐเอกราช หรืออ้างว่าเป็นผู้สืบทอดรัฐบาลที่ถูกขับไล่ไปก่อนหน้านี้ รัฐบาลที่ดำรงตำแหน่งอยู่
รัฐบาลพลัดถิ่นที่ไม่ได้ปกครองตนเองหรือดินแดนที่ถูกยึดครอง
รัฐบาลพลัดถิ่นเหล่านี้เป็นรัฐบาลของดินแดนที่ไม่ได้ปกครองตนเองหรือยึดครอง พวกเขาอ้างอำนาจโดยชอบธรรมเหนือดินแดนที่พวกเขาเคยควบคุม หรืออ้างความชอบธรรมของอำนาจหลังการปลดปล่อยอาณานิคม การอ้างสิทธิ์อาจเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งของกลุ่มที่ถูกเนรเทศให้เป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย
องค์การสหประชาชาติรับรองสิทธิในการกำหนดอนาคตตนเองของประชากรในดินแดนเหล่านี้ รวมถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐอธิปไตยที่เป็นอิสระ
Remove ads
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads