อุดมเดช สีตบุตร

พลเอก อุดมเดช สีตบุตร (เกิด 15 สิงหาคม พ.ศ. 2498) เป็นนายทหารชาวไทย อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และราชองครักษ์พิเศษ

พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ม.ป.ช. ม.ว.ม. ร.ม.
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
ดำรงตำแหน่ง 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557 – 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 (3 ปี 2 เดือน 24 วัน)
นายกรัฐมนตรี	ประยุทธ์ จันทร์โอชา
รัฐมนตรีว่าการ	ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ก่อนหน้า	ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
ถัดไป	ชัยชาญ ช้างมงคล
สมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 – 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 (3 ปี 9 เดือน 15 วัน)
ผู้บัญชาการทหารบก
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 – 30 กันยายน พ.ศ. 2558 (11 เดือน 29 วัน)
ก่อนหน้า	พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถัดไป	พลเอก ธีรชัย นาควานิช
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด	15 สิงหาคม พ.ศ. 2498 (70 ปี)
คู่สมรส	วิภาดา สีตบุตร
บุพการี	พลเอก เลิศรบ สีตบุตร (บิดา) ประณีต สีตบุตร (มารดา)
ชื่อเล่น	โด่ง
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้	ไทย
สังกัด	กองทัพบกไทย
ประจำการ	พ.ศ. 2521–2558
ยศ	พลเอก[1]

ประวัติ

ชีวิตส่วนตัว

พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร เกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2498 ชื่อเล่น โด่ง (สื่อมวลชนนิยมเรียกว่า บิ๊กโด่ง) ณ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของพล.อ. เลิศรบ สีตบุตร อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร กับนางประณีต สีตบุตร เป็นบุตรชายคนสุดท้องของพี่น้อง 6 คน ดังนี้

1. นายชาญชัย สีตบุตร
2. พลอากาศเอก ไพศาล สีตบุตร
3. นางสาวอัญชลี สีตบุตร
4. นางฤดีรัตน์ สีตบุตร
5. นางศิรินทิพย์ สีตบุตร
6. พลเอก อุดมเดช สีตบุตร

พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร สมรสกับ นางวิภาดา สีตบุตร กรรมการบริหาร บริษัท มาเลศฟู้ด จำกัด^[2] มีบุตรธิดาด้วยกัน 2 คน คือ

• ร.ท.หญิง จุฑาภัค สีตบุตร
• นักเรียนนายร้อย ภูวเดช สีตบุตร

การศึกษา

จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล จากนั้นเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 14 รุ่นเดียวกับ

• พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก, อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม
• พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง, ผู้บัญชาการทหารอากาศ
• นาวาอากาศเอก วีระยุทธ ดิษยะศริน

และเข้ารับการศึกษาต่อเนื่องที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 25 รุ่นเดียวกับ

• พลเอก ธีรชัย นาควานิช อดีตผู้บัญชาการทหารบก,
• พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,
• พลเอก ประสูตร รัศมีแพทย์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด

ลำดับการศึกษา

• โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
• โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 14
• โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 25
• โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 65
• วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
• หลักสูตร Integrated Pest Management ประเทศอิสราเอล
• หลักสูตร Management Broadcast Program ประเทศสหรัฐอเมริกา

การรับราชการ

ราชการทหาร

• พ.ศ. 2521 : ผู้บังคับหมวดกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
• พ.ศ. 2524 : ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
• พ.ศ. 2529 : ฝอ.3 กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
• พ.ศ. 2532 : ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร
• พ.ศ. 2534 : หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน กองพลที่ 1 รักษาพระองค์
• พ.ศ. 2540 : รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
• พ.ศ. 2545 : ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
• พ.ศ. 2547 : รองผู้บัญชาการ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์
• พ.ศ. 2549 : เสนาธิการ กองทัพภาคที่ 1
• พ.ศ. 2550 : ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11
• พ.ศ. 2551 : ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9
• พ.ศ. 2552 : รองแม่ทัพภาคที่ 1
• พ.ศ. 2553 : แม่ทัพภาคที่ 1
• พ.ศ. 2555 : เสนาธิการทหารบก
• พ.ศ. 2556 : รองผู้บัญชาการทหารบก
• พ.ศ. 2557 : ผู้บัญชาการทหารบก
• พ.ศ. 2558 : ราชองครักษ์พิเศษ

ราชการพิเศษ

• อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
• ราชองครักษ์พิเศษ^[3]
• นายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์^[4]
• อดีตกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ในรัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
• อดีตสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อุปนายกสภาทหารผ่านศึกคนที่ 1^[5]
• อดีตเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
• อดีตประธานสโมสรฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนเต็ด^[6]
• ประธานกรรมการ มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
• อดีตประธานคณะกรรมการบริหารกิจการโทรทัศน์กองทัพบก
• หัวหน้าศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ^[7]

งานการเมือง

พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา^[8] และเป็นเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติอีกหน้าที่หนึ่ง

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

• พ.ศ. 2557 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)^[9]
• พ.ศ. 2554 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)^[10]
• พ.ศ. 2533 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นที่ 6 เหรียญรามมาลา (ร.ม.)^[11]
• พ.ศ. 2529 – เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 1 (ส.ช.)^[12]
• พ.ศ. 2534 – เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)^[13]
• พ.ศ. 2541 – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)^[14]

ต่างประเทศ

•  มาเลเซีย :
  • พ.ศ. 2558 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์เกปาละวานัน อังกะตัน เตนเตรา ชั้นที่ 1^[15]
•  สิงคโปร์:
  • พ.ศ. 2559 – เหรียญปิงกัต จาซา เกมิลัง (เท็นเทรา)^[16]