คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

ไทยลีก

ลีกฟุตบอลอาชีพระดับสูงสุดในไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Remove ads

ไทยลีก (อังกฤษ: Thai League; ชื่อย่อ T1) เป็นระบบการแข่งขันฟุตบอลลีกในระดับสูงสุดของประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2539 ภายใต้การบริหารของบริษัท ไทยลีก จำกัด มีสโมสรฟุตบอลที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 สโมสร โดยแต่ละสโมสรจะแข่งขันแบบพบกันหมด สองนัดเหย้าเยือนรวม 30 นัดต่อสโมสรต่อฤดูกาล รวมทั้งหมด 240 นัดต่อฤดูกาล

ข้อมูลเบื้องต้น ก่อตั้ง, ประเทศ ...

ตั้งแต่จัดตั้งลีกขึ้นมามีทั้งหมด 41 สโมสรที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน และมี 12 สโมสรที่ได้แชมป์ไทยลีก คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (11),เมืองทอง ยูไนเต็ด (4),โปลิศ เทโร, ทหารอากาศ และ ธนาคารกรุงไทย (2), ธนาคารกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, สินธนา, ชลบุรี เอฟซี, พนักงานยาสูบ, เชียงราย ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (1)

Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

เมื่อปี พ.ศ. 2539 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีความคิดในการที่จะปรับปรุงระบบการแข่งขันฟุตบอลในประเทศ จากวัตถุประสงค์เพื่อความเป็นเลิศ มาเป็นรูปแบบอาชีพ โดยเริ่มก่อตั้งฟุตบอลลีกสูงสุดขึ้น โดยเดิมที การแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรระดับสูงสุดของประเทศคือ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. (ถ้วยใหญ่) ซึ่งจัดการแข่งขันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459 จนถึงปี พ.ศ. 2538 (ในฐานะการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรระดับสูงสุดของประเทศ) โดยมีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขันใน ฤดูกาลแรก ทั้งหมด 18 สโมสร ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างเป็น 10 สโมสร จนถึง ฤดูกาล 2547/48

การรวบรวมลีก

ในปี พ.ศ. 2549 มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ เริ่มมีการให้ สิทธิสโมสรที่จบตำแหน่งชนะเลิศและรองชนะเลิศใน โปรวินเชียลลีก เข้าร่วมการแข่งขันได้ ซึ่งทำให้มีการเพิ่มจำนวนสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็น 12 สโมสร ตั้งแต่ ฤดูกาล 2549 จนกระทั่งในปีถัดมา (พ.ศ. 2550) จึงมีการควบรวม โปรวินเชียลลีก โดยได้มีการจัดทำ บันทึกช่วยจำ การจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย ระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ[1] ซึ่งเป็นเอกสารข้อตกลงในการรวมลีกทั้งสองเข้าเป็นลีกเดียว โดยให้สิทธิสโมสรที่จบตำแหน่งชนะเลิศและรองชนะเลิศในการแข่งขัน โปรลีก ฤดูกาล 2549 เข้าแข่งขันใน ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ด้วย ซึ่งทำให้มีการเพิ่มจำนวนสโมสรที่เข้าแข่งขันเป็น 16 สโมสร พร้อมทั้งเพิ่มเงื่อนไขให้สโมสรซึ่งอยู่ใน 3 อันดับสุดท้ายเมื่อจบฤดูกาล ต้องตกชั้นไปสู่ ไทยลีกดิวิชั่น 1 โดยให้สิทธิสโมสรชนะเลิศ รองชนะเลิศ และ อันดับที่ 3 ของ ไทยลีกดิวิชั่น 1 เลื่อนชั้นมาแข่งขันเป็นการทดแทน โดยสโมสรแรกที่มาจาก โปรวินเชียลลีก แล้วสามารถชนะเลิศการแข่งขันได้คือ ชลบุรี เอฟซี ใน ฤดูกาล 2550

การปรับโครงสร้างลีกสู่ลีกอาชีพ

ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ออกระเบียบว่าด้วยความเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นผลให้สมาคมฯ ต้องดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อบริหารลีกและจัดการแข่งขันแทนที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยได้มีการจัดตั้ง บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ขึ้น โดยมี วิชิต แย้มบุญเรือง อดีตนัก ฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นประธานกรรมการคนแรก และออกระเบียบให้ผู้บริหารสโมสรฟุตบอลอาชีพ ต้องจัดตั้งในรูปนิติบุคคล (บริษัท) เพื่อดำเนินการบริหารสโมสร ส่งผลให้มีการแข่งขันเชิงรูปแบบ การบริหารจัดการให้เป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น รวมทั้งแพร่หลายออกไปยังส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จากเดิมที่สโมสรฟุตบอลต่างๆ จะกระจุกตัวอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่านั้น จึงกลับมาเป็นที่นิยมของแฟนฟุตบอลไทยอีกครั้ง โดยใน ฤดูกาล 2554 สมาคมฯ ประกาศเพิ่มจำนวนสโมสรที่จะทำการแข่งขัน เป็น 18 สโมสร[2]

กรณีพิพาทของลีก

ต่อมาได้มีกรณีข้อพิพาทในเรื่องสิทธิการบริหารสโมสรและสิทธิการแข่งขัน ระหว่าง อีสาน ยูไนเต็ด และ ศรีสะเกษ เอฟซี โดยทาง อีสาน ยูไนเต็ด ได้ยื่นคำร้องต่อ ศาลปกครอง เพื่อขอให้พิจารณาว่า ศรีสะเกษ เอฟซี มีสิทธิทำการแข่งขันในฤดูกาล ฤดูกาล 2556 หรือไม่ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว เป็นผลให้ บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก ต้องลงมติให้พักการแข่งขันของ สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ตามคำสั่งคุ้มครองฯของศาล โดยเมื่อศาลปกครองวินิจฉัยให้สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ มีสิทธิทำการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกได้ต่อไป สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงประชุมร่วมกับ บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ และสโมสรสมาชิกทั้งหมด โดยที่ประชุมลงมติให้ ฤดูกาล 2557 เพิ่มสมาชิกเป็น 20 สโมสร และกำหนดสโมสรที่จะต้องตกชั้นลงไปแข่งขันไทยลีกดิวิชั่น 1 ต้องมีถึง 5 สโมสรคือ อันดับที่ 16-20 (ขณะเดียวกัน ทั้งสองฤดูกาลดังกล่าว ยังคงให้สโมสรชนะเลิศ, รองชนะเลิศ และอันดับที่ 3 ของไทยลีกดิวิชัน 1 ขึ้นมาแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีกตามเดิม) เพื่อทำให้สโมสรสมาชิก คงเหลือเพียง 18 ทีมเท่าเดิม[3] ส่วนฤดูกาล 2556 ให้สโมสรอันดับที่ 17 ต้องตกชั้นลงไปแข่งขันในไทยลีกดิวิชัน 1 เพียงทีมเดียว[4]

การเปลื่ยนแปลงบริหาร

ภายหลังจากการเลือกตั้งนายก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่ง พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งได้รับเลือกจากสโมสรสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคม คนใหม่ได้ประกาศว่าได้ทำการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทน บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยใช้ชื่อว่า บริษัท พรีเมียร์ลีกไทยแลนด์ จำกัด (PLT)[5] และได้มีการจัดหาตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์ของลีก แทนที่ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่ได้มีการยกเลิกสัญญาไป

การปรับโครงสร้างระบบลีก

ต่อมาได้มีการจัดตั้ง บริษัท ไทยลีก จำกัด ขึ้นมาแทน บจก.พรีเมียร์ลีกไทยแลนด์ ตามคำแนะนำของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย และ สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ โดยได้โอนหุ้นจำนวน 99.98% ที่ทางนายกสมาคมฯ ถือไว้ให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย[6] ต่อมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีนโยบายในการพัฒนาศักยภาพสโมสรฟุตบอลลีกอาชีพอย่างยั่งยืน และยกระดับลีกภายในประเทศให้ก้าวไปสู่ลีกชั้นนำของอาเซียนและเอเชีย เริ่มจากการตั้งและปรับเปลี่ยนชื่อลีกแต่ละระดับให้อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน เน้นความเรียบง่าย กระชับ น่าจดจำและร่วมสมัยที่สุด[7]

การแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศไทยภายใต้การจัดของ บริษัท ไทยลีก จำกัด ตั้งแต่ฤดูกาล 2560 ได้แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ต่อมาในฤดูกาล 2563 ได้มีการปรับลดเหลือเป็น 4 ระดับและในฤดูกาล 2566 ได้มีการปรับเพิ่มเป็น 5 ระดับโดยมีชื่อเรียกหลักอย่างเป็นทางการประกอบด้วย

  1. ไทยลีก (Thai League) ชื่อย่อ T1 เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพระดับสูงสุดของประเทศไทย โดยฤดูกาล 2560 สโมสรที่จบอันดับที่ 1-15 ของ ฤดูกาล 2559 และ สโมสรอันดับ 1-3 จาก ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2559 รวมเป็น 18 สโมสร และตั้งแต่ฤดูกาล 2562 เป็นต้นมา ได้มีการปรับลดจำนวนสโมสรที่ทำการแข่งขันเป็น 16 สโมสร เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดตารางแข่งขันให้ ฟุตบอลทีมชาติไทย ได้มีเวลาเตรียมทีมแข่งขันรายการต่างๆ และสามารถมีช่วงเวลาหยุดพักแข่งขันตามหลักสากล
  2. ไทยลีก 2 (Thai League 2) ชื่อย่อ T2 เป็นการแข่งขันฟุตบอลอาชีพระดับที่สองรองจาก ไทยลีก โดย ฤดูกาล 2560 สโมสรที่จบอันดับ 16-18 จาก ไทยลีก ฤดูกาล 2559, สโมสรที่จบอันดับ 4-15 จาก ฤดูกาล 2559 และ 3 สโมสรที่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้น จาก ลีกภูมิภาค ฤดูกาล 2559 รวมเป็น 18 สโมสร
  3. ไทยลีก 3 (Thai League 3) ชื่อย่อ T3 เป็นฟุตบอลลีกอาชีพระดับ 3 รวมเป็น 76 สโมสร แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 โซน
  4. ไทยแลนด์ เซมิโปรลีก (Thailand Semi-Pro League) ชื่อย่อ TS เป็นฟุตบอลลีกกึ่งอาชีพระดับ 4 รวมเป็น 34 สโมสร แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 โซน
  5. ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก (Thailand Amateur League) ชื่อย่อ TA เป็นฟุตบอลลีกสมัครเล่นระดับ 5 แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 โซน

ในวันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566 นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ในฐานะรักษาการประธานบริษัท ไทยลีก จำกัด และนายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้เรียกประชุมตัวแทน 16 สโมสรสมาชิกไทยลีก เพื่อหาทางออกและเสนอข้อชี้แนะหลังการประมูลซื้อลิขสิทธิ์ไทยลีกไม่เป็นไปอย่างที่คิด ซึ่งข้อเสนอแนะจากเสียงส่วนใหญ่ใน 16 ทีมคือให้ทั้ง 16 ทีมบริหารจัดการและหาสิทธิประโยชน์กันเอง (พรีเมียร์ลีกโมเดล) ซึ่งจะได้นำข้อมูลและรายละเอียดเสนอเข้าสู่การประชุมสภากรรมการบริหารสมาคมในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม[8] ต่อมาในวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2566 ทางสมาคมและตัวแทนสโมสรสมาชิกทั้ง 16 สโมสรได้ประชุมพูดคุยเพื่อหาข้อสรุปซึ่งข้อสรุปคือทางสมาคมไฟเขียวให้ 16 สโมสรบริหารจัดการลิขสิทธิ์ไทยลีกโดยคาดว่าจะได้บทสรุปสุดท้ายในการประชุมวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม ที่โรงแรมพูลแมน[9] ต่อมาในวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2566 ตัวแทน 16 สโมสรสมาชิกและตัวแทนจากบริษัทไทยลีก ได้ประชุมหารือเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไทยลีก พร้อมกับแต่งตั้ง ธัญญะ วงศ์นาค เป็นโฆษกบริษัทไทยลีกคนใหม่[10]

ความพยายามแยกตัวครั้งที่ 2

ต่อมาในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 สโมสรสมาชิกในศึกไทยลีก 1 ได้นัดประชุม Thai League Work Shop ครั้งที่ 1 เพื่อหารือเรื่องจะทำการแยกตัวจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกมาเปิดบริษัทจัดการแข่งขันเองเช่นเดียวกับพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ จะได้บริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง ทำให้สโมสรจะได้รับเงินมากกว่าที่เคยได้รับในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงเรื่องผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุป การปรับเปลี่ยนตารางแข่งขันในช่วงฤดูกาล 2025–26 ไม่ให้มีการพักเบรกทีมชาติช่วงซีเกมส์ 2025 รวมถึงการปรับระเบียบการแข่งขันเสียใหม่โดยเฉพาะการจัดอันดับทีมที่มีคะแนนเท่ากัน ว่าไม่ควรนับจากผลงานการเจอกันเอง (เฮดทูเฮด) แต่ให้วัดที่ผลต่างประตูได้เสียไปเลย ขณะที่การตกชั้นจะปรับให้ตกชั้นแค่ทีมเดียว แล้วนำเอาอันดับ 12-15 มาเพลย์ออฟเพื่อหาอีก 2 ทีมตกชั้น[11][12]

ในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 สโมสรสมาชิกของไทยลีก 1 ได้จัดประชุม Thai League Work Shop ครั้งที่ 2 โดยมีวาระสำคัญคือการแยกบริษัทออกมาจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัทไทยลีก เพื่อจัดการแข่งขันเอง โดยมีสโมสรสมาชิกเห็นด้วย 11 เสียงคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, ลำพูน วอริเออร์, ราชบุรี, พลังกาญจน์, อยุธยา ยูไนเต็ด, ชลบุรี, พีที ประจวบ, อุทัยธานี และสุโขทัย ไม่เห็นด้วย 2 เสียงคือ ระยอง และการท่าเรือ งดออกเสียง 2 เสียงคือ ทรูแบงค็อกยูไนเต็ด และเมืองทองยูไนเต็ด และไม่เข้าประชุม 1 เสียงคือ นครราชสีมา โดยมีกำหนดเริ่มต้นในฤดูกาล 2025–26 โดยขั้นตอนต่อไปคือการเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภากรรมการของสมาคมกีฬาฟุตบอลเพื่อตัดสินว่าจะอนุมัติหรือไม่ หากอนุมัติทั้ง 16 สโมสรจะต้องมาประชุมกันต่อว่าจะบริหารจัดการแข่งขันอย่างไร[13]

แต่ในเวลาต่อมา ลำพูนที่เป็นหนึ่งในสโมสรที่ร่วมเห็นด้วยกับการแยกลีกก็กลับลำไม่เห็นด้วยกับมตินี้เพราะตัวแทนที่เข้าร่วมประชุมลงมติผิดพลาด ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ก็ได้ออกหนังสือชี้แจงสาเหตุที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมว่าเป็นเพราะติดธุระ และไม่เห็นด้วยกับมตินี้เพราะยังไม่ได้ศึกษาข้อดีข้อเสียที่ชัดเจน ทำให้เหลือสโมสรสมาชิกที่เห็นด้วยทั้งหมด 10 ทีม[14]

ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 สมาคมกีฬาฟุตบอลได้จัดการประชุมสภากรรมการ ซึ่งในที่ประชุมไม่มีเรื่องการแยกลีกอยู่ในวาระการประชุมเลย[15]

Remove ads

รูปแบบการแข่งขัน

สรุป
มุมมอง

ไทยลีก มีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 สโมสร ตามปกติจะดำเนินการจัดแข่งขัน ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี โดยแต่ละสโมสรจะแข่งขันแบบพบกันหมด สองนัดเหย้าเยือนรวม 30 นัดต่อสโมสรต่อฤดูกาล ซึ่งในแต่ละนัด ผู้ชนะจะได้ 3 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน แพ้ไม่ได้คะแนน ทั้งนี้เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล สโมสรที่ได้คะแนนรวมสูงสุดจะได้รับตำแหน่งชนะเลิศ และได้สิทธิไปแข่งขันรายการ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ ส่วนสโมสรที่ได้รองชนะเลิศ และอันดับที่ 3 จะได้ไปแข่งในรายการเดียวกัน แต่จะแข่งขันในรอบคัดเลือกรอบสอง (กรณีสโมสรที่ชนะเลิศหรือรองชนะเลิศไทยลีก และสโมสรที่ชนะเลิศ ไทย เอฟเอคัพ ในฤดูกาลเดียวกัน เป็นสโมสรเดียวกัน สิทธิแข่งขันจะตกเป็นของสโมสรที่ได้คะแนนอันดับที่ 4 ของลีกแทน) ส่วนสโมสรที่ได้คะแนนรองลงมา จะเรียงอันดับลดหลั่นกันตามคะแนนรวมที่ได้ โดยสโมสรที่จบฤดูกาลในสามอันดับสุดท้าย จะตกชั้นสู่ไทยลีก 2 และ ทีมที่อันดับสูงที่สุดสองทีมในไทยลีก 2 จะเลื่อนชั้นไป พร้อมกับอีกหนึ่งทีมที่มาจากการชนะเลิศในการแข่งขันเพลย์ออฟระหว่างอันดับที่ 3, 4, 5 และ 6

ในกรณีที่มีสโมสรมากกว่า 1 ทีมขึ้นไป ได้คะแนนรวมเท่ากันเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ให้ใช้เกณฑ์พิจารณาเรียงลำดับดังนี้

  1. พิจารณาจากผลการแข่งขันของทีมที่มีคะแนนเท่ากันที่เคยแข่งกันมาในฤดูกาลที่เพิ่งจบการแข่งขัน (Head To Head)
  2. พิจารณาจากจำนวนครั้งที่ชนะ (Number of Wins) ของแต่ละทีมที่คะแนนเท่ากัน
  3. พิจารณาจากผลต่างของประตูได้ และประตูเสีย (Goals Difference)
  4. พิจารณาเฉพาะประตูได้ (Goals For)
  5. แข่งขันกันใหม่ 1 นัด เพื่อหาทีมชนะ หากผลการแข่งขันเสมอกันในเวลาปกติให้ตัดสินด้วยการเตะลูกโทษ ณ จุดเตะโทษ
  6. ในกรณีที่พิจารณาตามเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นตามลำดับแล้วและได้เกณฑ์ตัดสินตามข้อหนึ่งข้อใดแล้วให้ยุติการพิจารณาข้อต่อไป

ในการจัดอันดับระหว่างการแข่งขัน เพื่อแสดงลำดับในตารางคะแนนระหว่างฤดูกาล ให้ใช้เกณฑ์พิจารณาดังต่อไปนี้

  1. พิจารณาจากคะแนนรวมสูงสุด
  2. ถ้าคะแนนรวมเท่ากันให้พิจารณาจากผลต่างของประตูได้ ประตูเสีย
  3. ถ้ายังเท่ากันอีกให้ดูเฉพาะประตูได้
  4. ถ้ายังเท่ากันอีกให้ทำการจับฉลาก
Remove ads

ผู้สนับสนุนหลัก

ไทยลีกมีการตั้งชื่อการแข่งขันตามชื่อผู้สนับสนุน โดยให้มีชื่อเรียกต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

ข้อมูลเพิ่มเติม ช่วงเวลา, ผู้สนับสนุน ...

สโมสรที่เข้าร่วมไทยลีก (ฤดูกาล 2568–69)

ข้อมูลเพิ่มเติม สโมสร, ที่ตั้ง ...
Remove ads

ทำเนียบสโมสรชนะเลิศ

สรุป
มุมมอง
ข้อมูลเพิ่มเติม #, ปี ...

จำนวนครั้งที่ชนะเลิศ

ผู้ลงเล่นสูงสุด

ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2568

ตัวหนา หมายถึง นักเตะที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่ในไทยลีก

ผู้ทำประตูสูงสุด

ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2568
ข้อมูลเพิ่มเติม อันดับ, ผู้เล่น ...

ตัวหนา หมายถึง ผู้เล่นที่ยังลงเล่นอยู่ในไทยลีก[23][24]

สถิติผู้เล่น

สถิติของการแข่งขัน

Remove ads

เครือข่ายถ่ายทอดโทรทัศน์

Remove ads

รางวัล

สรุป
มุมมอง

เงินรางวัล

  • ชนะเลิศ: 10,000,000 บาท
  • รองชนะเลิศ: 2,000,000 บาท
  • อันดับสาม: 1,500,000 บาท
  • อันดับสี่: 800,000 บาท

โดยทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล สำหรับสโมสรฟุตบอลซึ่งได้คะแนนรวมในอันดับต่างๆ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล

นอกจากนี้ ยังมีเงินบำรุงสโมสรที่เข้าร่วมแข่งขัน สโมสรละ 1,000,000 บาท โล่พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท สำหรับผู้จัดการทีม/หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม และผู้ทำประตูสูงสุด, โล่พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท สำหรับสโมสรที่มีมารยาทยอดเยี่ยม, นักฟุตบอลเยาวชนผู้มีผลงานโดดเด่น และผู้เล่นยอดเยี่ยมตำแหน่งต่างๆ คือผู้รักษาประตู, กองหลัง, กองกลาง และกองหน้า[33]

ถ้วยรางวัล

ไฟล์:T1 Trophy 2017.jpg
ถ้วยรางวัลไทยลีก ใช้ตั้งแต่ฤดูกาล 2560

ผู้ทำประตูสูงสุดของฤดูกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, ผู้เล่น ...

ผู้เล่นยอดเยี่ยม

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, ผู้เล่น ...

ดาวรุ่งยอดเยี่ยม

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, ผู้เล่น ...

ผู้จัดการทีม/หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, รายชื่อผู้ฝึกสอน ...
Remove ads

ลีกเยาวชน

ลีกเยาวชนก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2559 โดยความร่วมมือของการกีฬาแห่งประเทศไทย ใช้ชื่อการแข่งขันว่า ไทยแลนด์ยูธลีก มีรูปแบบการแข่งขันคล้ายกับ ไทยลีก 4 และมีการแข่งขันทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่ รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี, 15 ปี, 17 ปี และ 19 ปี

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads