ประเทศเบลารุส
ประเทศในยุโรปตะวันออก / From Wikipedia, the free encyclopedia
เบลารุส (อังกฤษ: Belarus; เบลารุส: Белару́сь, ออกเสียง: [bʲɛlaˈrusʲ]; รัสเซีย: Белару́сь, ออกเสียง: [bʲɪlɐˈrusʲ]) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเบลารุส (อังกฤษ: Republic of Belarus; เบลารุส: Рэспу́бліка Белару́сь; รัสเซีย: Респу́блика Белару́сь) ในอดีตมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เบียโลรัสเซีย (อังกฤษ: Byelorussia; รัสเซีย: Белору́ссия) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อกับรัสเซีย ยูเครน โปแลนด์ ลิทัวเนีย และลัตเวีย เมืองหลวงของประเทศคือกรุงมินสค์ เมืองสำคัญของประเทศนี้ ได้แก่ แบรสต์ ฆโรดนา โฆเมียล และวีเชปสก์ พื้นที่มากกว่า 40% ของขนาดประเทศ 207,600 ตารางกิโลเมตร (80,200 ตารางไมล์) เป็นป่าไม้ ภาคเศรษฐกิจหลักของประเทศคืออุตสาหกรรมบริการและการผลิต[11] จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ดินแดนที่กลายมาเป็นประเทศเบลารุสในปัจจุบันเคยถูกรัฐต่าง ๆ ในหลาย ๆ ยุคยึดครอง ซึ่งรวมถึงราชรัฐโปลอตสค์ (คริสต์ศตวรรษที่ 11 ถึง 14), แกรนด์ดัชชีลิทัวเนีย, เครือจักรภพโปแลนด์–ลิทัวเนีย และจักรวรรดิรัสเซีย
สาธารณรัฐเบลารุส Рэспу́бліка Белару́сь (เบลารุส) Респу́блика Белару́сь (รัสเซีย) | |
---|---|
ที่ตั้งของ ประเทศเบลารุส (เขียว) ในยุโรป (เทาเข้ม) — [คำอธิบายสัญลักษณ์] | |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | มินสค์ 53°55′N 27°33′E |
ภาษาราชการ | |
ภาษาชนกลุ่มน้อยที่ได้รับการยอมรับ | |
กลุ่มชาติพันธุ์ (ค.ศ. 2019)[1] |
|
ศาสนา (ค.ศ. 2011)[2] |
|
เดมะนิม | ชาวเบลารุส |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว สาธารณรัฐระบบประธานาธิบดีภายใต้ระบอบเผด็จการ |
• ประธานาธิบดี | อาเลียกซันดร์ ลูกาแชนกา [3][4] |
• นายกรัฐมนตรี | รามัน ฮาลอว์แชนกา[5] |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา |
• สภาสูง | สภาสาธารณรัฐ |
• สภาล่าง | สภาผู้แทนราษฎร |
ก่อตั้ง | |
• ดัชชีปาลอตสก์ | ค.ศ. 987 |
• ราชรัฐตูรอฟ | คริสต์ศตวรรษที่ 10 |
ค.ศ. 1236 | |
9 มีนาคม ค.ศ. 1918 | |
• เป็นเอกราชจากรัสเซีย | 25 มีนาคม ค.ศ. 1918 |
• ประกาศเป็นรัฐเอกราช | 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1990 |
• เป็นเอกราชจากสหภาพโซเวียต | 25 สิงหาคม ค.ศ. 1991 |
• รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน | 15 มีนาคม ค.ศ. 1994 |
• การแก้ไขครั้งสุดท้าย | 17 ตุลาคม ค.ศ. 2004 |
พื้นที่ | |
• รวม | 207,595 ตารางกิโลเมตร (80,153 ตารางไมล์) (อันดับที่ 84) |
1.4% (2.830 ตารางกิโลเมตร หรือ 1.093 ตารางไมล์)a | |
ประชากร | |
• ค.ศ. 2021 ประมาณ | 9,349,645 (อันดับที่ 96) |
• สำมะโนประชากร ค.ศ. 2019 | 9,413,446 |
45.8 ต่อตารางกิโลเมตร (118.6 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 142) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2020 (ประมาณ) |
• รวม | 185.889 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 69) |
• ต่อหัว | 19,758 ดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 66) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2020 (ประมาณ) |
• รวม | 57.708 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 75) |
• ต่อหัว | 6,133 ดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 84) |
จีนี (ค.ศ. 2019) | 25.3[7] ต่ำ |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) | 0.823[8] สูงมาก · อันดับที่ 53 |
สกุลเงิน | รูเบิลเบลารุส (BYN) |
เขตเวลา | UTC+3 (เวลามอสโก[9]) |
รูปแบบวันที่ | วว.ดด.ปปปป |
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | +375 |
โดเมนบนสุด | |
เว็บไซต์ belarus.by | |
|
ในช่วงหลังการปฏิวัติรัสเซียใน ค.ศ. 1917 เบลารุสประกาศเอกราชในฐานะสาธารณรัฐประชาชนเบลารุส แต่สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตรัสเซียได้เข้ายึดครอง สาธารณรัฐโซเวียตสังคมนิยมเบียโลรัสเซียได้กลายเป็นสาธารณรัฐองค์ประกอบผู้ก่อตั้งสหภาพโซเวียตใน ค.ศ. 1922 และเปลี่ยนชื่อเป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตเบียโลรัสเซีย (Byelorussian SSR) ดินแดนของเบลารุสเกือบครึ่งหนึ่งถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์หลังจากสงครามโปแลนด์–โซเวียตใน ค.ศ. 1919–1921 พรมแดนส่วนใหญ่ของเบลารุสมีลักษณะอย่างปัจจุบันตั้งแต่ ค.ศ. 1939 เมื่อดินแดนบางส่วนของสาธารณรัฐโปแลนด์ที่ 2 ถูกผนวกเข้ากับเบลารุสอีกครั้งหลังจากการรุกรานโปแลนด์ของสหภาพโซเวียต และได้ข้อสรุปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง[12][13][14] ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปฏิบัติการต่าง ๆ ทางทหารทำให้เบลารุสเสียหายอย่างรุนแรง โดยสูญเสียประชากรราวหนึ่งในสามและทรัพยากรทางเศรษฐกิจมากกว่าครึ่ง[15] สาธารณรัฐได้รับการพัฒนาขื้นใหม่อีกครั้งหลังสงคราม ใน ค.ศ. 1945 สาธารณรัฐเบียโลรัสเซียกลายเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของสหประชาชาติพร้อมกับสหภาพโซเวียตและสาธารณรัฐยูเครน[16]
รัฐสภาสาธารณรัฐเบลารุสประกาศอำนาจอธิปไตยของเบลารุสเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1990 และในระหว่างการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เบลารุสได้ประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1991[17] อาเลียกซันดร์ ลูกาแชนกา ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศมาตั้งแต่ ค.ศ. 1994 นักข่าวตะวันตกบางคนได้ขนานนามเบลารุสว่าเป็น "เผด็จการสุดท้ายของยุโรป"[18][19] เนื่องมาจากรูปแบบรัฐบาลซึ่งลูกาแชนกาได้นิยามเองว่าเป็นอำนาจนิยม[20][21][22] ลูกาแชนกายังคงใช้นโยบายหลายประการจากยุคโซเวียต เช่น กรรมสิทธิ์ของรัฐในเศรษฐกิจส่วนใหญ่ การเลือกตั้งภายใต้กฎของลูกาแชนกาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าไม่ยุติธรรม และตามรายงานของประเทศและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ การต่อต้านทางการเมืองได้ถูกปราบปรามอย่างรุนแรง เบลารุสเป็นประเทศสุดท้ายในยุโรปที่ยังคงใช้โทษประหารชีวิต[23][24][25] คะแนนดัชนีประชาธิปไตยของเบลารุสนั้นต่ำที่สุดในยุโรป เบลารุสถูกระบุว่า "ไม่เสรี" โดยองค์การฟรีดอมเฮาส์ ถูกระบุว่า "ถูกกดขี่" ในดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจ และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเสรีภาพสื่อในยุโรป ในดัชนีเสรีภาพสื่อประจำ ค.ศ. 2013–2014 ซึ่งองค์กรนักข่าวไร้พรมแดนเป็นผู้เผยแพร่โดยจัดเบลารุสอยู่ในอันดับที่ 157 จาก 180 ประเทศทั่วโลก[26]
ใน ค.ศ. 2000 เบลารุสและรัสเซียได้ลงนามในสนธิสัญญาเพื่อความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยก่อตั้งรัฐสหภาพรัสเซียและเบลารุส กว่าร้อยละ 70 ของประชากรเบลารุสจำนวน 9.49 ล้านคนอาศัยอยู่ในเขตเมือง ประชากรมากกว่าร้อยละ 80 เป็นชาวเบลารุส ชนกลุ่มน้อยขนาดใหญ่ได้แก่ ชาวรัสเซีย, โปแลนด์ และยูเครน นับตั้งแต่การลงประชามติใน ค.ศ. 1995 ประเทศเบลารุสมีภาษาราชการสองภาษาคือภาษาเบลารุสและภาษารัสเซีย รัฐธรรมนูญของเบลารุสไม่ได้ประกาศศาสนาอย่างเป็นทางการ แต่ศาสนาหลักของประเทศคือศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ ศาสนาที่แพร่หลายมากเป็นอันดับสองของเบลารุสคือนิกายโรมันคาทอลิกซึ่งมีผู้นับถือจำนวนน้อยกว่ามาก ถึงกระนั้นเบลารุสก็เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสและอีสเตอร์ของทั้งออร์ทอดอกซ์และคาทอลิกในฐานะวันหยุดประจำชาติ[27] เบลารุสเป็นสมาชิกของสหประชาชาตินับตั้งแต่ก่อตั้ง, เครือรัฐเอกราช, องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน, สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย และขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เบลารุสไม่ได้แสดงความปรารถนาที่จะเข้าร่วมสหภาพยุโรป แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีกับองค์การ และในทำนองเดียวกันเบลารุสมีส่วนร่วมในโครงการสองโครงการของสหภาพยุโรป คือ หุ้นส่วนตะวันออกและการริเริ่มที่บากู