Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อากาศยานลำตัวกว้าง (อังกฤษ: Wide-body aircraft) คือ อากาศยานที่มีขนาดลำตัว (fuselage) กว้างเพียงพอสำหรับบรรทุกผู้โดยสารได้ถึงสองช่องทางเดิน (aisles) โดยถูกเรียกว่าเป็น อากาศยานที่มีสองช่องทางเดิน ซึ่งประกอบไปด้วยที่นั่งอย่างน้อยเจ็ดที่นั่งต่อหนึ่งแถว[1] ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโดยทั่วไปของลำตัวเครื่องบินนั้นมีขนาดประมาณ 5 ถึง 6 เมตร (16 ถึง 20 ฟุต)[2] ซึ่งทำให้จุผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 200 จนถึง 850 คนในหนึ่งเที่ยวบิน[3] อากาศยานที่มีขนาดลำตัวกว้างที่สุดนั้นมีขนาดความกว้างกว่า 6 เมตร (20 ฟุต) และสามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 11 ที่นั่งต่อหนึ่งแถวในการจัดผังที่นั่งที่แบบใช้พื้นที่สูงสุด
เมื่อเปรียบเทียบกันกับอากาศยานลำตัวแคบ (Narrow-body aircraft) ซึ่งจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 3 ถึง 4 เมตร (10 ถึง 13 ฟุต) และมีช่องทางเดินเดียว[1][4] และจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 2 จนถึง 6 ที่นั่งต่อหนึ่งแถว[5]
แต่แรกนั้น อากาศยานลำตัวกว้างนั้นถูกออกแบบเพื่อจุดประสงค์ในด้านประสิทธิภาพ และความสะดวกสบายของผู้โดยสาร รวมทั้งการเพิ่มขนาดของห้องสัมภาระ อย่างไรก็ตาม สายการบินต่างๆ หันมาให้ความสนใจในด้านความสามารถในการประหยัดค่าใช้จ่าย และลดพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเพื่อแลกกับความสามารถในการทำรายได้และกำไรสูงสุด[6]
อากาศยานลำตัวกว้างที่มีขนาดกว้างที่สุดมักจะถูกเรียกว่า จัมโบ้เจ็ต ซึ่งได้แก่ โบอิง 747 ("จัมโบ้เจ็ต") แอร์บัส เอ380 ("ซุปเปอร์จัมโบ้เจ็ต") และรุ่นที่กำลังจะตามมา คือ โบอิง 777X ("มินิจัมโบ้เจ็ต")[7][8] คำว่า "จัมโบ้เจ็ต" นั้นมาจากชื่อ "จัมโบ้" ของช้างที่โด่งดังจากละครสัตว์ในช่วงศตวรรษที่ 19[9][10]
จากความสำเร็จในการออกแบบและผลิตโบอิง 707 และดักลาส ดีซี-8 ในช่วงปลายยุค 1950 สายการบินต่างๆ ก็เริ่มต้นมองหาอากาศยานที่มีขนาดกว้างขึ้นเพื่อรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการเดินทางทางอากาศ วิศวกรผู้พัฒนาต่างก็พบกับความท้าทายหลายประการ เพราะสายการบินต่างๆ ต้องการบรรจุผู้โดยสารจำนวนมากขึ้น โดยมีพิสัยการบินที่ไกลขึ้น และต้นทุนที่ต่ำลง
เครื่องบินไอพ่นในสมัยแรก เช่น โบอิง 707 และดักลาส ดีซี-8 มีการจัดที่นั่งโดยสารแบบช่องทางเดินเดียวซึ่งมีที่นั่งไม่มากกว่าหกต่อแถว อากาศยานที่มีขนาดใหญ่กว่าจะต้องมีความยาวมากกว่า สูงกว่า (เช่น มีสองชั้น) หรือกว้างพอที่จะจุจำนวนผู้โดยสารได้มากกว่า จากนั้นวิศวกรก็ได้พบว่าการสร้างห้องโดยสารเป็นสองชั้นจะเป็นปัญหาต่อกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการอพยพอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในขณะนั้น และในช่วงยุค 1960 ก็ได้เชื่อกันว่าอากาศยานความเร็วเหนือเสียงนั้นจะมาแทนที่อากาศยานแบบเดิมที่มีขนาดใหญ่ แต่ทำความเร็วได้ช้ากว่า ดังนั้น จึงมีความเชื่อที่ว่าอากาศยานที่มีความเร็วต่ำกว่าเสียงนั้นจะค่อยๆ หายไปจากธุรกิจการบิน และจะกลายเป็นอากาศยานสำหรับขนส่งสินค้าแทน จึงทำให้ผู้ผลิตอากาศยานหลายรายได้ปรับแผนโดยใช้ลำตัวเครื่องบินที่กว้างขึ้นแทนที่จะสูงขึ้น (อาทิเช่น โบอิง 747 แมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-10 และล็อกฮีด แอล-1011) โดยการเพิ่มช่องทางเดิน จะทำให้สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ถึง 10 ที่นั่งต่อหนึ่งแถว ซึ่งยังสามารถเปลี่ยนเป็นอากาศยานขนส่งสินค้าที่บรรจุสินค้าได้ถึงสองตอน[11]
ต่อมาวิศวกรได้พยายามออกแบบผลิตรุ่นที่สามารถยืดยาวออกไปได้อีกสำหรับแมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-8 (รุ่นย่อย 61 62 และ 63) รวมทั้งรุ่นที่ยาวขึ้นสำหรับโบอิง 707 (รุ่นย่อย 320B และ 320C) และ โบอิง 727 (รุ่นย่อย 200) และ แมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-9 (รุ่นย่อย 30 40 และ 50) ซึ่งทั้งหมดนั้นสามารถบรรจุจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้นกว่าเดิม ในสมัยทางเทคโนโลยียังไม่สามารถทำอากาศยานที่มีสองชั้นตลอดลำตัวจนกระทั่งต่อมาในศตวรรษที่ 21 (แอร์บัส เอ380)
ยุคสมัยแรกของอากาศยานลำตัวกว้างนั้นเริ่มขึ้นราวปีค.ศ. 1970 ด้วยอากาศยานลำตัวกว้างรุ่นบุกเบิก ได้แก่ โบอิง 747[12] ที่มี 4 เครื่องยนต์ และห้องโดยสารสองชั้นบริเวณช่วงต้นของอากาศยาน ต่อมาไม่นาน อากาศยานลำตัวกว้างที่มีสามเครื่องยนต์ (trijet) ก็ถือกำเนิดตามมา ได้แก่ แมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-10 และล็อกฮีด L-1011 ไทรสตาร์ ต่อมาอากาศยานลำตัวกว้างชนิดสองเครื่องยนต์ (twinjet) ถือกำเนิดขึ้นกับ แอร์บัส เอ300 ซึ่งเข้าประจำการในปีค.ศ. 1974 ในยุคสมัยนี้ถือเป็นช่วงที่เรียกกันว่า "สงครามอากาศยานลำตัวกว้าง"[13]
ภายหลังกว่าสองทศวรรษต่อมาหลังจากความสำเร็จของอากาศยานประเภทนี้ ได้มีอากาศยานที่พัฒนาออกมาแทนอีกหลายรุ่น รวมถึง โบอิง 767 โบอิง 777 และแอร์บัส เอ330 แอร์บัส เอ340 และแมคดอนเนลล์ ดักลาส เอ็มดี-11 ในประเภทของ "จัมโบ้เจ็ต" นั้น ความจุของ โบอิง 747 นั้นยังคงทำสถิติต่อเนื่องมาจนถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2007 เมื่อแอร์บัส เอ380 ได้เข้าประจำการพร้อมชื่อเรียกอย่างลำลองว่า "ซุปเปอร์จัมโบ้เจ็ต"
อากาศยานที่มีขนาดลำตัวเครื่องบินกว้าง ถึงแม้จะมีพื้นที่ที่มากกว่า (และทำให้มีแรงต้านสูงขึ้นด้วย) อากาศยานลำตัวแคบที่มีปริมาณที่นั่งใกล้เคียงกัน โดยอากาศยานลำตัวกว้างนั้นมีข้อดีดังนี้:
กำลังของเครื่องยนต์อากาศยานได้มีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลาในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ทำให้อากาศยานลำตัวกว้างส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้มีเพียงเครื่องยนต์จำนวนสองเครื่องเท่านั้น เครื่องยนต์คู่นั้นประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าอากาศยานขนาดเท่าๆ กันที่มีสามหรือสี่เครื่องยนต์ ความปลอดภัยของเครื่องยนต์อากาศยานในยุคปัจจุบันยังทำให้อากาศยานเป็นไปตามมาตรฐานการรับรองของ ETOP (Extended-range Twin-engine Operational Performance Standards) ซึ่งคำนวณ และกำหนดความปลอดภัยสำหรับเที่ยวบินข้ามทวีป อากาศยานส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้นมีเพียงสองเครื่องยนต์ เช่น (แอร์บัส เอ330 แอร์บัส เอ350 โบอิง 767 และ โบอิง 777) ยกเว้นแต่อากาศยานที่มีน้ำหนักมากซึ่งจำเป็นต้องใช้สี่เครื่องยนต์ (ได้แก่ แอร์บัส เอ340, แอร์บัส เอ380 และ โบอิง 747)[15][16]
การตกแต่งภายในของอากาศยาน หรือเรียกว่า ห้องโดยสาร (cabin) ได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อากาศยานขนส่งผู้โดยสารในยุคแรก และในปัจจุบันนี้ อากาศยานลำตัวกว้างสามารถบรรจุชั้นโดยสารได้ตั้งแต่หนึ่งชั้นโดยสารถึงสี่ชั้นโดยสาร
บาร์ และเลาจน์ซึ่งเคยมีอยู่ในอากาศยานประเภทนี้เริ่มถูกตัดออกไปเกือบทั้งหมด แต่ก็ได้นำกลับเข้ามาในชั้นหนึ่ง (first class) และชั้นธุรกิจ (business class) บนเครื่องบินแอร์บัส เอ340-600[17] โบอิง 777-300ER[18] และ แอร์บัส เอ380[19] เอมิเรตส์แอร์ไลน์ได้เพิ่มห้องอาบน้ำสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งบนเครื่องบินแอร์บัส เอ380[20] โดยอนุญาตให้ผู้โดยสารใช้งานได้ท่านละยี่สิบห้านาที และฝักบัวสามารถเปิดน้ำติดต่อกันได้ครั้งละห้านาทีเท่านั้น[21][22]
การออกแบบภายในห้องโดยสาร รวมทั้งขนาด ความกว้างของที่นั่ง และระยะห่างระหว่างที่นั่ง นั้นแตกต่างกันตามแต่ละสายการบิน[23] ตัวอย่างเช่น อากาศยานที่ใช้สำหรับเที่ยวบินระยะใกล้นั้นจะถูกตกแต่งให้มีความหนาแน่นของจำนวนที่นั่งมากกว่าอากาศยานสำหรับบินระยะไกล แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินของธุรกิจสายการบิน ความหนาแน่นของที่นั่งสำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัดนั้นยังคงมีอยู่ต่อไป[24]
ในอากาศยานลำตัวกว้างแบบชั้นเดียว อาทิ เช่น โบอิง 777 พื้นที่บริเวณด้านบนของห้องโดยสารถูกออกแบบสำหรับเป็นบริเวณพักผ่อนของลูกเรือ และบริเวณเก็บอาหาร
รุ่น | ช่วงผลิต (ค.ศ.) | จำนวนเครื่องยนต์ | น้ำหนักสูงสุดขณะนำเครื่องขึ้น (MTOW) (ตัน) |
ความกว้างภายใน | ความกว้างภายนอก | จำนวนที่นั่งต่อแถวในชั้นประหยัด |
---|---|---|---|---|---|---|
แอร์บัส เอ300[25] | 1974–2007 | 2 | 171.7 | 528 เซนติเมตร (208 นิ้ว) | 564 เซนติเมตร (222 นิ้ว) | 8 ที่นั่ง (กว้าง 17.0") ผังที่นั่งแบบ 2-4-2 บน TG[26] หรือ LH[27] |
แอร์บัส เอ310[28] | 1983–1998 | 2 | 164 | 528 เซนติเมตร (208 นิ้ว) | 564 เซนติเมตร (222 นิ้ว) | 8 ที่นั่ง (กว้าง 17.4") ผังที่นั่งแบบ 2-4-2 บน AI[29] |
แอร์บัส เอ330[30] | 1994- | 2 | 242 | 528 เซนติเมตร (208 นิ้ว) | 564 เซนติเมตร (222 นิ้ว) | 8 ที่นั่ง (กว้าง 17.5") ผังที่นั่งแบบ 2-4-2 บน EK[31] 9 ที่นั่ง (กว้าง 16.5") ผังที่นั่งแบบ 3-3-3 บน D7[32] |
แอร์บัส เอ340[33] | 1993–2011 | 4 | 380 | 528 เซนติเมตร (208 นิ้ว) | 564 เซนติเมตร (222 นิ้ว) | 8 ที่นั่ง (กว้าง 17.5") ผังที่นั่งแบบ 2-4-2 บน EY[34] 9 ที่นั่ง (กว้าง 16.5") ผังที่นั่งแบบ 3-3-3 D7[35] |
แอร์บัส เอ350[36] | 2010- | 2 | 268 | 561 เซนติเมตร (221 นิ้ว) | 596 เซนติเมตร (235 นิ้ว) | 9 ที่นั่ง (กว้าง 18") ผังที่นั่งแบบ 3-3-3 บน QR[37] 8 ที่นั่ง (กว้าง 19-19.5")[38] 10 ที่นั่ง ผังที่นั่งแบบ 3-4-3 ถูกนำเสนอ[38] |
แอร์บัส เอ380[39] | 2007-2021 | 4 | 560 | 654 เซนติเมตร (257 นิ้ว) ที่นั่งชั้นบน : 580 เซนติเมตร (230 นิ้ว) |
714 เซนติเมตร (281 นิ้ว) | 10 ที่นั่ง ผังที่นั่งแบบ 3-4-3 กว้าง 17.0" บน LH และความกว้าง 18.6" บน SQ[40] 11 ที่นั่ง (กว้าง 18") ผังที่นั่งแบบ 3-5-3 ถูกนำเสนอ[41] |
โบอิง 747[42] | 1970- | 4 | 447.7 | 610 เซนติเมตร (240 นิ้ว) | 650 เซนติเมตร (260 นิ้ว) | 10 ที่นั่ง (กว้าง 18.5") ผังที่นั่งแบบ 3-4-3 บน LH[43] |
โบอิง 767[44] | 1982- | 2 | 186.9 | 472 เซนติเมตร (186 นิ้ว) | 503 เซนติเมตร (198 นิ้ว) | 7 ที่นั่ง (กว้าง 18.0") ผังที่นั่งแบบ 2-3-2 บน UA[45] 8 ที่นั่ง (กว้าง 17.0") ผังที่นั่งแบบ 2-4-2 บน BY[46] |
โบอิง 777[47] | 1995- | 2 | 351.5 | 586 เซนติเมตร (231 นิ้ว) | 619 เซนติเมตร (244 นิ้ว) | 9 ที่นั่ง (กว้าง 18.0") ผังที่นั่งแบบ 3-3-3 บน UA[48] ถึง (กว้าง 18.5") ผังที่นั่งแบบ 2-5-2 บน AA[49] 10 ที่นั่ง (กว้าง 17.5") ผังที่นั่งแบบ 3-4-3 บน EK[50] |
โบอิง 787 ดรีมไลเนอร์[51] | 2011- | 2 | 252.7 | 549 เซนติเมตร (216 นิ้ว) | 591 เซนติเมตร (233 นิ้ว) | 8 ที่นั่ง (กว้าง 18.5") ผังที่นั่งแบบ 2-4-2 บน ANA[52] 9 ที่นั่ง (กว้าง 17.3") ผังที่นั่งแบบ 3-3-3 บน UA[53] |
อิลยูชิน อิล-86 | 1980–1994 | 4 | 206[54] | 570 เซนติเมตร (220 นิ้ว) | 608 เซนติเมตร (239 นิ้ว) | 9 ที่นั่ง (กว้าง 18.0") ผังที่นั่งแบบ 3-3-3 บน SU[55] |
อิลยูชิน อิล-96[56] | 1992- | 4 | 216 | 570 เซนติเมตร (220 นิ้ว) | 608 เซนติเมตร (239 นิ้ว) | 9 ที่นั่ง (กว้าง 18.0") ผังที่นั่งแบบ 3-3-3 บน SU[57] |
ล็อคฮีด แอล-1011 ไตรสตาร์[58] | 1972–1985 | 3 | 231.3 | 577 เซนติเมตร (227 นิ้ว) | 602 เซนติเมตร (237 นิ้ว) | 9 ที่นั่ง (กว้าง 17.0") ผังที่นั่งแบบ 3-4-2 บน BA[59] หรือ 2-5-2 บน SV [60] |
แมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-10[61] | 1971–1989 | 3 | 259.5 | 569 เซนติเมตร (224 นิ้ว) | 602 เซนติเมตร (237 นิ้ว) | 8 ที่นั่ง (กว้าง 20") ผังที่นั่งแบบ 2-4-2[61] 9 ที่นั่ง (กว้าง 18") ผังที่นั่งแบบ 2-4-3[61] 10 ที่นั่ง (กว้าง 16.5") ผังที่นั่งแบบ 3-4-3[61] |
แมคดอนเนลล์ ดักลาส เอ็มดี-11[62] | 1990–2001 | 3 | 286 | 569 เซนติเมตร (224 นิ้ว) | 602 เซนติเมตร (237 นิ้ว) | 9 ที่นั่ง (กว้าง 18") ผังที่นั่งแบบ 2-5-2[62] 10 ที่นั่ง (กว้าง 16.5") ผังที่นั่งแบบ 3-4-3[62] |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.