Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โบอิง 737 แมกซ์ (อังกฤษ: Boeing 737 MAX family) เป็นรุ่นของอากาศยานที่ออกแบบโดยโบอิง ซึ่งเป็นการนำเครื่องบินโบอิง 737 เน็กซต์เจเนอเรชัน รุ่นก่อนหน้ามาพัฒนาต่อ เพื่อนำมาแข่งขันกับแอร์บัส เอ320นีโอจากแอร์บัส โบอิง 737 แมกซ์ได้ขึ้นบินครั้งแรกในเดือนมกราคม ปีค.ศ. 2016[1] และได้เริ่มให้บริการในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017 โดยมาลินโดแอร์[2]
โบอิง 737 แมกซ์ | |
---|---|
โบอิง 737 แมกซ์ 9 ของอะแลสกาแอร์ไลน์ | |
ข้อมูลทั่วไป | |
บทบาท | อากาศยานไอพ่นลำตัวแคบ |
ชาติกำเนิด | สหรัฐ |
บริษัทผู้ผลิต | โบอิง |
สถานะ | ในประจำการ |
ผู้ใช้งานหลัก | เซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ไรอันแอร์ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ อเมริกันแอร์ไลน์ |
จำนวนที่ผลิต | 1,445 ลำ (มกราคม ค.ศ. 2024) |
ประวัติ | |
สร้างเมื่อ | ค.ศ. 2014– ปัจจุบัน |
เริ่มใช้งาน | 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 โดย มาลินโดแอร์ |
เที่ยวบินแรก | 29 มกราคม ค.ศ. 2016 |
พัฒนาจาก | โบอิง 737เอ็นจี |
โบอิง 737 แมกซ์มีพื้นฐานการออกแบบจากโบอิง 737 รุ่นก่อนหน้า โดยมีการเปลี่ยนแปลงในบางส่วน คือ เครื่องยนต์ ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ลีป ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น, การเปลี่ยนแปลงตามหลักอากาศพลศาสตร์, รวมถึงส่วนปลายปีกแบบแยกส่วน และเฟรมเครื่องบิน
ในปี ค.ศ. 2006 โบอิงได้มีการประกาศแผนที่จะสร้างเครื่องบินรุ่นใหม่ตามหลังโบอิง 787 ดรีมไลเนอร์ โดยมีจุดประสงค์ในการทดแทนโบอิง 737[3] ต่อมาได้การเลื่อนโครงการจนถึงปีค.ศ. 2011[4]
ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2010 แอร์บัสได้มีการเปิดตัวเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ เพื่อปรับปรุงการเผาผลาญเชื้อเพลิงและประสิทธิภาพการทำงานด้วยเครื่องยนต์ใหม่: ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ลีป และแพตแอนด์วิตนีย์ PW1000G[5] ต่อมาในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2011 โบอิงได้มีการประกาศการพัฒนาเครื่องบินโบอิง 737 รุ่นใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ซึ่งมีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงน้อยกว่าของเอ320นีโอถึง 4%[6]
ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2015 โบอิง 737 แมกซ์ลำแรกเสร็จสิ้นการประกอบเครื่องที่โรงงานในวิชิทอ, รัฐแคนซัส และได้เปิดตัวครั้งแรกที่โรงงานผลิตของโบอิงที่เรตอนในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2015[7][8][9] ต่อมาเครื่องบินได้ทำบินครั้งแรกในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2016 โดยทำการขึ้นบินออกจากท่าอากาศยานเรตอนมิวนิซิปอล[10] โดยมีการทำการทดสอบต่างๆ[11]
การส่งมอบครั้งแรกของ 737 แมกซ์คือ 737 แมกซ์ 8 ซึ่งส่งมอบให้กับมาลินโดแอร์ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2017; และเริ่มใช้งานในวันที่ 22 พฤษภาคม[2] นอร์วิเจียนแอร์อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นสายการบินที่สองที่ให้บริการ 737 แมกซ์ โดยมีการให้บริการเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก[12]
หลังจากอุบัติเหตุของโบอิง 737 แมกซ์ 8 ทั้งสองครั้งในเดือนตุลาคม 2018 และเดือนมีนาคม 2019 โบอิง 737 แมกซ์ได้ถูกสั่งระงับการบินทั่วโลก[13] โดยประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่ได้ระงับการบินของ 737 แมกซ์ โดยตามมาด้วยสิงคโปร์, อินเดีย, ทูร์เคีย, เกาหลีใต้, สหภาพยุโรป, ออสเตรเลียและมาเลเซียในวันต่อมา โดยองค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศสุดท้ายที่สั่งระงับการบินของ 737 แมกซ์
ระหว่าง 20 เดือนที่เครื่อง 737 แมกซ์ถูกระงับการบิน โบอิงได้ทำการปรับปรุงแก้ไขระบบ MCAS ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทั้งสองเหตุการณ์ เพื่อให้เครื่องบินได้รับการรับรองจากองค์การบริหารการบินทั่วโลกและนำกลับมาขึ้นบินอีกครั้ง[14] ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทางบริษัทโบอิงได้รับผลกระทบทั้งทางการเงินและทางกฎหมาย ซึ่งคดีนี้ก็ได้มีการฟ้องร้องถึงศาล สุดท้ายแล้วโบอิงได้จ่ายเงิน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจ่ายค่าปรับไป 243.6 ล้านดอลลาร์, เงินชดเชยต่อสายการบิน 1.77 พันล้านดอลลาร์, และจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวขอผู้เสียชีวิตอีกกว่า 500 ล้านดอลลาร์[15][16]
ต้นเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 โบอิงพบปัญหาในการอัปเดตซอฟต์แวร์ของ 737 แมกซ์[17] ซึ่งส่งผลกระทบต่อความพยายามในการรับรองจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติ[18] ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายนถึง 1 กรกฎาคม FAA และโบอิงได้ทำการบินทดสอบสำหรับการรับรองหลายครั้ง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน FAA ประกาศว่าโบอิง 737 แมกซ์ได้รับอนุญาตให้กลับไปให้บริการ ก่อนที่เครื่องบินแต่ละลำจะสามารถกลับมาให้บริการได้ จำเป็นต้องมีการซ่อมแซมตามที่กำหนดไว้ และต้องให้นักบินเข้ารับการฝึกอบรมสำหรับเครื่องบินรุ่นนี้[19]
ในวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2020 โกว์ลีญัสอาแอเรียสเป็นสายการบินแรกที่เริ่มนำโบอิง 737 แมกซ์กลับเข้ามาบริการ[20] และอเมริกันแอร์ไลน์เป็นสายการบินแรกที่นำกลับมาใช้งานในประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม[21]
รุ่น แมกซ์ 7 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุดในตระกูล 737 แมกซ์ โดยมีพื้นฐานมาจาก 737-700 บินได้ไกลกว่า 1,000 ไมล์ทะเล (1,900 กม.) และรองรับที่นั่งอีกสองแถวโดยลดค่าเชื้อเพลิง 18% ต่อที่นั่ง[22] โดยรุ่นแมกซ์ 7 มีแผนเปิดตัวกับเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 แต่ก็ได้เลื่อนคำสั่งซื้อเหล่านี้ออกไป[23][24] 737 แมกซ์ 7 จะเข้ามาแทนที่ 737-700 และคาดว่าจะบรรทุกผู้โดยสารได้ 12 คนและบินได้ไกลกว่าคู่แข่งแอร์บัส เอ319นีโอ ประมาณ 400 ไมล์ทะเล (740 กม.) โดยมีต้นทุนการดำเนินงานลดลง 7% ต่อที่นั่ง[25] โบอิง 737 แมกซ์ 7 ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและคาดว่าจะเริ่มให้บริการในปีค.ศ. 2023-2024[26]
เครื่องบิน 737 แมกซ์รุ่นแรกที่ถูกพัฒนา คือ รุ่นแมกซ์ 8 โดยจะนำมาแทนที่ 737-800 โบอิงวางแผนที่จะปรับปรุงพิสัยการบินจาก 3,515 ไมล์ทะเล (6,510 กม.) เป็น 3,610 ไมล์ทะเล (6,690 กม.)[27] รุ่นแมกซ์ 8 มีน้ำหนักตัวเปล่าที่ต่ำกว่าและน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดที่สูงกว่าแอร์บัส เอ320นีโอ คู่แข่งของรุ่นแมกซ์ 8
737 แมกซ์ 200 ซึ่งเป็นรุ่นความจุสูงของ 737 แมกซ์ 8 ซึ่งได้เปิดตัวในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014 และได้รับการตั้งชื่อสำหรับที่นั่งสำหรับผู้โดยสารได้ถึง 200 คนในรูปแบบที่นั่งชั้นเดียว 737 แมกซ์ 200 จะประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 20% ต่อที่นั่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าแมกซ์ 8 ประมาณ 5%[28][29]
สายการบินได้แสดงแนวคิดของเครื่องบิน 737-8ERX บนพื้นฐานของ 737 แมกซ์ 8 ที่มีน้ำหนักนำขึ้นสูงสุด 194,700 ปอนด์ (88.3 ตัน) โดยใช้ปีก ล้อลงจอด และส่วนกลางจากเครื่องแมกซ์ 9 เพื่อให้มีพิสัยบินที่ไกลกว่า 4,000 ไมล์ทะเล (7,400 กม.) พร้อมที่นั่ง 150 ที่นั่ง ใกล้กับแอร์บัส เอ321LR[30]
737 แมกซ์ 9 ซึ่งเป็นรุ่นขยายของแมกซ์ 8 ได้เปิดตัวพร้อมกับคำสั่งซื้อ 201 ลำในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 จากไลอ้อนแอร์[31] โดยเปิดตัวในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2017[32]ลูกค้าเปิดตัว ไลอ้อนแอร์ กรุ๊ป รับแมกซ์ 9 ลำแรกเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2018 ก่อนเข้าให้บริการกับไทยไลอ้อนแอร์[33] 737 แมกซ์ 9 จะเข้ามาแทนที่ 737-900 และแข่งขันกับ แอร์บัส เอ321นีโอ
รุ่น แมกซ์ 10 ถูกเสนอเป็นรุ่นขยายของแมกซ์ 9 ในช่วงกลางปี 2016 ทำให้สามารถจัดที่นั่งได้ 230 ที่นั่งในชั้นเดียวหรือ 189 ที่นั่งในรูปแบบสองชั้น เทียบกับ 193 ที่นั่งในที่นั่งสองชั้นสำหรับแอร์บัส เอ321นีโอ ด้วยความยาวลำตัวของรุ่นแมกซ์ 10 ที่ยืดออกเล็กน้อยขนาด 66 นิ้ว (1.7 ม.) ทำให้เครื่องบินสามารถใช้ปีกและเครื่องยนต์ ซีเอเอ็ม ลีป1บี จากรุ่นแมกซ์ 9 โดยจะมีเพียงแค่ล้อลงจอดจะใช้ระบบใหม่[34] 737 แมกซ์ 10 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2017 โดยมีคำสั่งซื้อและสัญญาสั่งซื้อ 240 รายการจากลูกค้ากว่าสิบราย[35] การกำหนดค่าตัวแปรโดยคาดการณ์ต้นทุนการเดินทางและค่าที่นั่งที่ลดลง 5% เมื่อเทียบกับ เอ321นีโอ[36][37] รุ่นแมกซ์ 10 มีความจุใกล้เคียงกับแอร์บัส เอ321เอกซ์แอลอาร์ แต่จะมีพิสัยบินสั้นกว่าและประสิทธิภาพการทำงานบนพื้นดินที่น้อยกว่า[38] รุ่นแมกซ์ 10 เปิดตัวในโรงงานเรนทอนของ โบอิง เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 และมีกำหนดบินครั้งแรกในปี 2020[39][40] รุ่นแมกซ์ 10 ได้ขึ้นบินครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2021[41]
ในช่วงปลายทศวรรษ 2010 โบอิงทำงานบนเครื่องบินโบอิงขนาดกลางรุ่นใหม่ (NMA) ซึ่งมีเครื่องบินสองรุ่นรองรับผู้โดยสารได้ 225 หรือ 275 คน และกำหนดเป้าหมายกลุ่มตลาดเดียวกันกับ 737 แมกซ์ 10 และแอร์บัส เอ321นีโอ[42] เครื่องบินขนาดเล็กในอนาคต (FSA) ก็ได้มีการประกาศโครงการเช่นเดียวกัน[43] โครงการ NMA ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 เนื่องจากโบอิงมุ่งเน้นไปที่การนำโบอิง 737 แมกซ์กลับมาให้บริการให้เร็วที่สุดและประกาศถึงแนวทางใหม่สำหรับโครงการในอนาคต
บีบีเจ แมกซ์ 8 และ บีบีเจ แมกซ์ 9 เป็นรุ่นเครื่องบินธุรกิจของ 737 แมกซ์ 8 และ 9 โดยใช้เครื่องยนต์ ซีเอฟเอ็ม ลีป-1B และ ปลายปีกใหม่เช่นเดียวกับของแมกซ์ 8 และ 9 โดยบีบีเจ แมกซ์ 8 จะมีพิสัยการบิน 6,325 ไมล์ทะเล (11,710 กม.) และ บีบีเจ แมกซ์ 9 มีพิสัยการบิน 6,255 ไมล์ทะเล (11,580 กม.)[44] บีบีเจ แมกซ์ 7 เปิดตัวในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2016 ด้วยพิสัยการบิน 7,000 ไมล์ทะเล (12,960 กม.) และต้นทุนการดำเนินงานต่ำกว่าบีบีเจดั้งเดิม 10%[45] บีบีเจ แมกซ์ 8 ทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2018 ก่อนส่งมอบครั้งแรกในปีเดียวกัน และจะมีพิสัยการบิน 6,640 ไมล์ทะเล (12,300 กม.) พร้อมถังเชื้อเพลิงเสริม[46]
ณ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 ผู้ให้บริการโบอิง 737 แมกซ์รายใหญ่ที่สุดห้าสายการบิน ได้แก่ เซาท์เวสต์แอร์ไลน์ (69), ไรอันแอร์ (55), อเมริกันแอร์ไลน์ (42), แอร์แคนาดา (32) และไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ (24)
ในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ 610 ได้ตกลงสู่ทะเลชวา 13 นาทีหลังจากบินขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตาในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เที่ยวบิน 610 เป็นเที่ยวบินภายในประเทศซึ่งเดินทางไปยังท่าอากาศยานเดปาตี อาเมียร์ เมืองปังกาลปีนัง มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 189 คน โดยเที่ยวบินนี้เป็นอุบัติเหตุการบินที่ร้ายแรงครั้งแรกของ 737 แมกซ์ ซึ่งเครื่องบินลำที่เกิดเหตุถูกส่งมอบให้ไลอ้อนแอร์สองเดือนก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ[47][48]
คณะกรรมการความปลอดภัยในการคมนาคมขนส่งแห่งชาติของอินโดนีเซียได้เปิดเผยรายงานขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับอุบัติเหตุ โดยระบุว่าสาเหตุการตกนั้นเกิดจากระบบ MCAS ซึ่งทำให้เครื่องบินตก เนื่องจากข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่ผิดพลาด หลังจากเครื่องบินไลอ้อนแอร์ตก โบอิงได้ออกคู่มือการปฏิบัติงานโดยให้คำแนะนำแก่สายการบินเกี่ยวกับวิธีจัดการกับการอ่านค่าห้องนักบินที่ผิดพลาด[49]
ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2019 เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 302 ได้ตกลงหลังจากขึ้นบินจากอาดดิสอาบาบาได้เพียง 6 นาที[50] เที่ยวบิน 302 เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศจากอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ไปยังไนโรบี ประเทศเคนยา[51] มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 157 คน โดยเครื่องบินโบอิง 737 แมกซ์ 8 ลำนี้ได้ส่งมอบให้เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ประมาณ 4 เดือนก่อนเกิดเหตุ[52] หลักฐานที่ได้รับจากจุดเกิดเหตุระบุว่า ในขณะที่เครื่องบินตก เครื่องบินถูกกำหนดค่าให้กดหัวลง คล้ายกับไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ 610[53]
เที่ยวบิน 302 เป็นอุบัติเหตุของเครื่องบินแมกซ์ 8 ครั้งที่สองในเวลาน้อยกว่าห้าเดือนหลังจากที่ไลอ้อนแอร์เที่ยวบิน 610 ตกในอินโดนีเซียในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018 และยังเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์และของประเทศเอธิโอเปีย[54][55] จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีการสั่งระงับการบินของโบอิง 737 แมกซ์ทั่วโลกและมีการสอบสวนหาสาเหตุการตกของเครื่องบิน เพื่อนำไปแก้ไขต่อไป[56]
ในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2024 อะแลสกาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1282 ส่งผลให้เกิดการสูญเสียแรงดันในเครื่องบินโบอิง 737 แมกซ์ 9 หลังอุปกรณ์สำหรับการปิดช่องประตูทางออกฉุกเฉินเกิดระเบิดออก[57] ส่งผลให้เกิดการสูญเสียแรงดันในเครื่องบิน รุ่นแมกซ์ 9 คล้ายกับ 737-900อีอาร์ จะมีตัวเลือกในการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการปิดช่องประตูทางออกฉุกเฉินตามความหนาแน่นของที่นั่งในห้องโดยสาร ในเครื่องบินที่มีความหนาแน่นของที่นั่งน้อย จะไม่จำเป็นต้องมีประตูทางออกฉุกเฉินในจุดนั้นและจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ปิดช่องประตูทางออกนั้นแทน ดังเครื่องบินที่เกิดเหตุ โดยขณะกำลังไต่ขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติพอร์ตแลนด์ อุปกรณ์ปิดช่องประตูหนึ่งเกิดหลุดออก[58]
เครื่องบินได้วนกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่พอร์ตแลนด์ โดยที่ในผู้โดยสาร 171 คนและลูกเรือ 6 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเด่นชัด ขณะเกิดเหตุได้มีของใช้ของผู้โดยสารขนาดเล็ก แผ่นรองเบาะที่รองหัวของที่นั่งถูกดูดออกจากเครื่องบิน โดยตามคำบอกเล่าของผู้โดยสาร เสื้อของเด็กชายที่นั่งอยู่ในแถวใกล้เคียงถูกดูดออกในขณะที่แม่ของเขาจับตัวของเขาไว้[59][60] เอฟเอเอ โบอิง อะแลสกาแอร์ไลน์ และเอ็นทีเอสบี ได้ร่วมกันสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติการณ์ โดยในเบื้องต้นอะแลสกาแอร์ไลน์ได้ระงับการทำการบินของโบอิง 737 แมกซ์ 9 ทั้ง 65 ลำในฝูงบินเป็นการชั่วคราว[61] โดยต่อมาเอฟเอเอได้สั่งระงับการทำการบินของ 737 แมกซ์ 9 จำนวน 171 ลำทั่วโลกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ปิดช่องประตูในลักษณะเดียวกันเพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขหากจำเป็น[62] โดยอะแลสกาแอร์ไลน์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ได้รายงานว่าพบสกรูที่ยึดติดได้ยึดอยู่อย่างหลวมในบางลำ[63]
ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 เอ็นทีเอสบีได้รายงานว่าสกรูสี่ตัวหลักไม่ได้ถูกติดตั้งบนเครื่องบินลำที่เกิดเหตุตั้งแต่การส่งมอบให้อะแลสกาแอร์ไลน์โดยโบอิงหลังจากมีการเปิดช่องประตูเพื่อทำการซ่อมบำรุง[64]
รุ่น | 737 แมกซ์ 7 | 737 แมกซ์ 8 / แมกซ์ 200 | 737 แมกซ์ 9 | 737 แมกซ์ 10 |
---|---|---|---|---|
ที่นั่ง | 153 (8J + 145Y) to 172 max | 178 (12J + 166Y) to 210 max[66] | 193 (16J + 177Y) to 220 max | 204 (16J + 188Y) to 230 max |
ระยะห่างระหว่างที่นั่ง | 28-29 in (71-74 cm) ในการจัดเรียงแบบหนาแน่น, 29-30 in (74-76 cm) ในการจัดเรียงที่นั่งราคาประหยัด, 36 in (91 cm) ในที่นั่งชั้นธุรกิจ | |||
ความจุสินค้า | 1,139 cu ft (32.3 m3) | 1,540 cu ft (44 m3) | 1,811 cu ft (51.3 m3) | 1,961 cu ft (55.5 m3) |
ความยาวเครื่อง | 116 ft 8 in (35.56 m) | 129 ft 6 in (39.47 m) | 138 ft 4 in (42.16 m) | 143 ft 8 in (43.79 m) |
ปีก | 117 ft 10 in (35.92 m) span, 1,370 sq ft (127 m2) area | |||
ความสูง[67] | 40 ft 4 in (12.29 m) | |||
น้ำหนักขึ้นบินสูงสุด | 177,000 lb (80,000 kg) | 182,200 lb (82,600 kg) | 194,700 lb (88,300 kg) | 197,900 lb (89,800 kg) |
น้ำหนักบรรทุกสูงสุด | 46,040 lb (20,880 kg) | |||
นำ้หนักเครื่องเปล่า[68] | 99,360 lb (45,070 kg) | |||
ความจุถังเชื้อเพลิง | 6,820 US gal (25,800 l) – 45,694 lb (20,726 kg) (no ACT) | |||
เครื่องยนต์ (× 2) | ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชันแนล ลีป-1บี, 69.4 in (176 ซm) Fan diameter,[69] 26,786–29,317 lbf (119–130 kN) | |||
ความเร็วขณะบิน | Mach 0.79 (523 kn; 968 km/h)[70] | |||
พิสัยการบิน[71] | 3,850 nmi (7,130 km; 4,430 mi) | 3,550 nmi (6,570 km; 4,090 mi) | 3,550 nmi (6,570 km; 4,090 mi) | 3,300 nmi (6,100 km; 3,800 mi) |
เพดานบิน | 41,000 ft (12,000 m) | |||
ระยะทางขึ้นบิน | 7,000 ft (2,100 m) | 8,300 ft (2,500 m) | 8,500 ft (2,600 m) | |
ระยะทางลงจอด | 5,000 ft (1,500 m) | 5,000 ft (1,500 m) | 5,500 ft (1,700 m) |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.