Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วงศ์ลิงใหญ่[3] หรือ โฮมินิดี (Hominidae, /hɒˈmɪnɪdiː/) ซึ่งมีสมาชิกที่เรียกว่า ลิงใหญ่ (อังกฤษ: great ape) หรือเรียกเป็นคำภาษาอังกฤษว่า โฮมินิด (อังกฤษ: Hominid) เป็นวงศ์ทางอนุกรมวิธานของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับวานรซึ่งรวมสปีชีส์ที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ 8 สปีชีส์ใน 4 สกุล คือ Pongo (อุรังอุตังบอร์เนียว สุมาตรา และตาปานูลิ) Gorilla (กอริลลาตะวันออก และตะวันตก) Pan (ชิมแปนซีและโบโนโบ) และ Homo ซึ่งเหลือเพียงมนุษย์ปัจจุบัน (Homo sapiens) เท่านั้น[1]
Hominidae[1] ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยไมโอซีน–ปัจจุบัน, 17–0Ma | |
---|---|
สปีชีส์โฮมินิดที่ยังมีอยู่ 8 ชนิด หนึ่งสกุลต่อแถว (มนุษย์ ชิมแปนซี กอริลลา อุรังอุตัง) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ Animalia |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง Chordata |
ชั้น: | สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม Mammalia |
อันดับ: | อันดับวานร Primates |
อันดับย่อย: | ฉบับร่าง:Haplorhini Haplorhini |
อันดับฐาน: | Simiiformes Simiiformes |
อนุอันดับ: | Catarrhini Catarrhini |
วงศ์ใหญ่: | โฮมินอยเดีย Hominoidea |
วงศ์: | ลิงใหญ่ Hominidae Gray, 1825[2] |
สกุลต้นแบบ | |
Homo ลินเนีย, 1758 | |
Subfamilies | |
วงศ์พี่น้อง: Hylobatidae | |
การกระจายตัวของลิงใหญ่ | |
ชื่อพ้อง | |
|
มีการแก้ไขหมวดหมู่ของลิงใหญ่หลายครั้ง จึงเปลี่ยนความหมายของคำว่า "โฮมินิด" ไปเรื่อย ๆ ความหมายดั้งเดิมหมายถึงเฉพาะมนุษย์ (โฮโม) และญาติใกล้ชิดที่สูญพันธุ์ไปแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงทศวรรษ 1990 มนุษย์และลิงไร้หาง (เอป) ชนิดอื่น ๆ ได้พิจารณาว่าเป็น "โฮมินิด"
ความหมายที่จำกัดก่อนหน้านี้เดี๋ยวนี้ใช้คำว่า โฮมินิน (hominin) แทนเป็นส่วนใหญ่ โดยหมายถึงสมาชิกทั้งหมดในเคลดมนุษย์หลังจากแยกสายพันธุ์ออกจากชิมแปนซี (Pan) แล้ว[upper-alpha 1] ความหมายปัจจุบันของ "โฮมินิด" จึงรวมลิงใหญ่ทั้งหมดรวมทั้งมนุษย์ อย่างไรก็ตาม การใช้คำก็ยังต่าง ๆ กันอยู่ เพราะนักวิทยาศาสตร์และบุคคลทั่วไปบางส่วนยังคงใช้ "โฮมินิด" ในความหมายเดิมที่จำกัด และวรรณกรรมทางวิชาการโดยทั่วไปก็ได้ใช้ความหมายดั้งเดิมจนถึงต้นศตวรรษที่ 21[7]
หน่วยอนุกรมวิธาน Hominidae มีทั้งสกุลที่ยังมีชีวิตอยู่และสูญพันธุ์ไปแล้วหลายสกุลโดยจัดกลุ่มร่วมกับมนุษย์ ชิมแปนซี และกอริลลาในวงศ์ย่อย Homininae ส่วนสกุลอื่น ๆ จัดกลุ่มร่วมกับอุรังอุตังในวงศ์ย่อย Ponginae (ดู รูปด้านล่าง) บรรพบุรุษร่วมล่าสุดของลิงใหญ่ทั้งหมดมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 14 ล้านปีก่อน[8] เป็นช่วงที่บรรพบุรุษของอุรังอุตังแยกออกจากสายบรรพบุรุษของอีก 3 สกุลที่เหลือ[9] ส่วนบรรพบุรุษของลิงใหญ่จริง ๆ ก็ได้แยกออกจากวงศ์ Hylobatidae (ชะนี) แล้วก่อนหน้านั้นเมื่อประมาณ 15–20 ล้านปีก่อน[9][10]
เนื่องจากมนุษย์สัมพันธ์ทางพันธุกรรมอย่างใกล้ชิดกับลิงใหญ่อื่น ๆ จึงมีองค์กรสิทธิสัตว์ต่าง ๆ เช่น Great Ape Project (โปรเจ็กต์ลิงใหญ่) ที่อ้างว่า ลิงใหญ่ที่ไม่ใช่มนุษย์จริง ๆ เป็นบุคคลและควรได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ประเทศ 29 ประเทศได้ออกกฎห้ามการวิจัยเพื่อปกป้องลิงใหญ่จากการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ทุกรูปแบบ[11]
ในสมัยไมโอซีนตอนต้นเมื่อประมาณ 22 ล้านปีที่แล้ว มีสปีชีส์ลิงโลกเก่า (Catarrhini) ดั้งเดิมที่ปรับตัวขึ้นต้นไม้ในแอฟริกาตะวันออกจำนวนมาก ความหลายหลากเช่นนี้บ่งประวัติการเกิดความหลากหลายอันยาวนานก่อนหน้านี้ ซากดึกดำบรรพ์ (ฟอสซิล) จากเมื่อ 20 ล้านปีก่อนรวมชิ้นส่วนที่ระบุว่าเป็นของไพรเมต Victoriapithecus ซึ่งเป็นลิงโลกเก่าที่เก่าแก่ที่สุด สกุลที่คิดว่าอยู่ในสายวิวัฒนาการของเอปจนถึง 13 ล้านปีที่แล้วได้แก่ Proconsul, Rangwapithecus, Dendropithecus, Limnopithecus, Nacholapithecus, Equatorius, Nyanzapithecus, Afropithecus, Heliopithecus และ Kenyapithecus ทั้งหมดอยู่ในแอฟริกาตะวันออก
ส่วนในแหล่งบรรพชีวินวิทยาซึ่งไกลจากแอฟริกาตะวันออก พบซากของไพรเมตที่ไม่อยู่ในวงศ์ลิงโลกเก่าจากกลางสมัยไมโอซีน คือ Otavipithecus จากสิ่งทับถมถ้ำในประเทศนามิเบีย, Pierolapithecus และ Dryopithecus จากประเทศฝรั่งเศส สเปน และออสเตรีย นี่เป็นหลักฐานเพิ่มเติมสำหรับความหลากหลายของรูปแบบบรรพบุรุษเอปทั่วแอฟริกาและพื้นที่รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นและสม่ำเสมอในช่วงต้นและกลางสมัยไมโอซีน ลิงยุคไมโอซีนเช่นนี้ (โฮมินอยด์) ซึ่งมีอายุน้อยที่สุดก็คือ Oreopithecus ได้พบซากในชั้นถ่านหินที่มีฟอสซิลมากในภาคเหนือของประเทศอิตาลีโดยมีอายุ 9 ล้านปีก่อน
หลักฐานทางอณูชีววิทยาแสดงว่า สายพันธุ์ชะนี (วงศ์ Hylobatidae) แยกออกจากสายพันธุ์ลิงใหญ่เมื่อประมาณ 18–12 ล้านปีที่แล้ว และสายพันธุ์อุรังอุตัง (วงศ์ย่อย Ponginae) แยกออกจากของลิงใหญ่อื่น ๆ เมื่อประมาณ 12 ล้านปีก่อน ไม่มีฟอสซิลที่แสดงบรรพบุรุษของชะนีอย่างชัดเจน ซึ่งอาจมีต้นกำเนิดมาจากประชากรเอปในเอเชียอาคเนย์ที่ยังไม่รู้จัก แต่ฟอสซิลของบรรพบุรุษอุรังอุตังที่ตรวจอายุได้ประมาณ 10 ล้านปี อาจใช้ Sivapithecus จากประเทศอินเดียและ Griphopithecus จากตุรกีเป็นตัวแบบ[12]
ส่วนสปีชีส์ที่ใกล้เคียงกับบรรพบุรุษร่วมล่าสุดของกอริลลา ชิมแปนซี และมนุษย์ อาจใช้ฟอสซิลของ Nakalipithecus ที่พบในเคนยาและของ Ouranopithecus ที่พบในกรีซเป็นตัวแทน หลักฐานทางอณูชีววิทยาชี้ว่าระหว่าง 8–4 ล้านปีที่แล้ว กอริลลา (สกุล Gorilla) และต่อจากนั้น ชิมแปนซี (สกุล Pan) ได้แยกออกจากสายพันธุ์ที่กลายเป็นมนุษย์ ดีเอ็นเอของมนุษย์เหมือนกับของชิมแปนซีประมาณ 98.4% เมื่อเทียบโดยซิงเกิลนิวคลีโอไทด์โพลีมอร์ฟิซึม[13] อย่างไรก็ตาม ฟอสซิลของกอริลลาและชิมแปนซีก็มีจำกัด ทั้งการเสื่อมสภาพเพราะดินในป่าฝนมักเป็นกรดแล้วสลายกระดูก และความเอนเอียงโดยการสุ่มตัวอย่างน่าจะเป็นสาเหตุหลักของปัญหานี้
ส่วนสายพันธุ์มนุษย์อื่น ๆ น่าจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งกว่านอกเขตเส้นศูนย์สูตรของแอฟริกา ซึ่งเป็นเขตที่มีตัวแอนทิโลป ไฮยีนา ช้างและสัตว์อื่น ๆ ที่กำลังปรับตัวเพื่อการอยู่รอดในทุ่งหญ้าสะวันนาของแอฟริกาตะวันออก โดยเฉพาะในเขตซาเฮลและ Serengeti เขตป่าชื้นที่เส้นศูนย์สูตรได้หดตัวลงหลังจากประมาณ 8 ล้านปีที่แล้ว และมีหลักฐานฟอสซิลน้อยมากในเรื่องการแยกตัวของสายพันธุ์มนุษย์จากของกอริลลาและชิมแปนซี ซึ่งเชื่อว่าเกิดในเวลานั้น ฟอสซิลอันเก่าแก่ที่สุดที่นักวิชาการบางส่วนเชื่อว่าเป็นส่วนของสายพันธุ์มนุษย์คือ Sahelanthropus tchadensis (7 ล้านปีก่อน) และ Orrorin tugenensis (6 ล้านปีก่อน) ตามด้วยสกุล Ardipithecus (5.5–4.4 ล้านปี) รวมทั้งสปีชีส์ A. kadabba และ A. ramidus
มีการแก้ไขการจัดหมวดหมู่ของลิงใหญ่หลายครั้งในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา การใช้คำว่า "โฮมินิด" จึงหลากหลายตามกาลเวลา ความหมายดั้งเดิมหมายถึงเฉพาะมนุษย์และญาติผู้ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันจะระบุความหมายนี้ด้วยคำว่า "โฮมินิน"[upper-alpha 1] ส่วนความหมายของหน่วยอนุกรมวิธาน Hominidae นั้นค่อย ๆ เปลี่ยน ดังนั้น คำว่า "โฮมินิด" ปัจจุบันจึงหมายถึงลิงใหญ่ทั้งหมดรวมทั้งมนุษย์
มีคำคล้ายกันจากภาษาอังกฤษหลายคำเพื่อจำแนกหมวดหมู่ คือ
แผนภาพวิวัฒนาการชาติพันธุ์ (cladogram) ซึ่งแสดงชื่อสามัญ (เทียบกับแผนภาพที่ละเอียดกว่าด้านล่าง)
Hominoidea |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โฮมินอยด์, ลิงไม่มีหาง, เอป |
Hominidae เดิมเป็นชื่อที่ให้กับวงศ์ของมนุษย์และญาติสนิท (ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว) โดยจัดลิงใหญ่อื่น ๆ (อุรังอุตัง กอริลลา และชิมแปนซี) ในวงศ์แยกต่างหากคือ Pongidae อย่างไรก็ตาม นิยามดังกล่าวในที่สุดก็ทำให้ Pongidae กลายเป็นกลุ่มแบบ paraphyletic คือกลุ่มที่รวมบรรพบุรุษร่วมล่าสุดแต่ไม่ได้รวมลูกหลายทุก ๆ สาย เพราะจริง ๆ มีลิงใหญ่อย่างน้อยหนึ่งสปีชีส์ (ชิมแปนซี) ที่สัมพันธ์กับมนุษย์อย่างใกล้ชิดกว่าลิงใหญ่อื่น ๆ นักอนุกรมวิธานปัจจุบันส่วนใหญ่สนับสนุนให้จัดกลุ่มแบบ monophyletic คือ กลุ่มที่รวมบรรพบุรุษร่วมล่าสุดและลูกหลานทั้งหมด ซึ่งในกรณีนี้จะต้องจำกัดการใช้หน่วย Pongidae กับกลุ่มที่สัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดเพียงกลุ่มเดียว ดังนั้น นักชีววิทยาปัจจุบันจึงมักจัดสกุล Pongo (ในวงศ์ย่อย Ponginae) ให้อยู่ในวงศ์ Hominidae แผนภาพวิวัฒนาการชาติพันธุ์บนแสดงการจัดกลุ่มแบบ monophyletic ตามความเข้าใจปัจจุบันถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับลิงใหญ่
มนุษย์และญาติใกล้ชิดรวมถึงเผ่า Hominini และ Gorillini รวมกันเป็นวงศ์ย่อย Homininae (นักวิจัยบางคนถึงขั้นจัดชิมแปนซีและกอริลลาให้อยู่ในสกุล Homo เช่นเดียวกับมนุษย์)[16][17][18] แต่ก็มีสปีชีส์ฟอสซิลที่เป็นญาติใกล้ชิดกับมนุษย์ยิ่งกว่าชิมแปนซี[19]
มีการศึกษาโฮมินิดที่สูญพันธุ์ไปแล้วหลายชนิดเพื่อช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ปัจจุบันกับโฮมินิดที่ยังมีชีวิตอยู่ชนิดอื่น ๆ สมาชิกที่สูญพันธุ์ไปแล้วของวงศ์นี้รวมสกุล Gigantopithecus, Orrorin, Ardipithecus, Kenyanthropus และเผ่าย่อย Australopithecina รวมทั้งสกุล Australopithecus และ Paranthropus[20]
เมื่ออาศัยความเข้าใจในปัจจุบันในเรื่องต้นกำเนิดมนุษย์ เกณฑ์ในการจัดเป็นสมาชิกในเผ่า Hominini ก็จะไม่ชัดเจน แต่โดยทั่วไปแล้ว หน่วยอนุกรมวิธานนี้รวมสปีชีส์ที่มีดีเอ็นเอร่วมกันกับจีโนมมนุษย์ปัจจุบันยิ่งกว่า 97% และแสดงศักยภาพในการใช้ภาษาหรือมีวัฒนธรรมอย่างง่าย ๆ ที่ยิ่งไปกว่าครอบครัวหรือกลุ่มในท้องถิ่น ส่วนแนวคิดเรื่องทฤษฎีจิต ซึ่งรวมถึงความสามารถต่าง ๆ เช่น ความเห็นอกเห็นใจ การเข้าใจสภาวะจิตใจของตนและผู้อื่น และแม้แต่การหลอกลวงเพื่อประโยชน์ของบุคคลนั้น เป็นเกณฑ์ที่ยังมีการโต้แย้ง เป็นสมรรถภาพที่แยกมนุษย์ผู้ใหญ่จากโฮมินิดอื่น ๆ มนุษย์จะพัฒนาสมรรถภาพนี้หลังจากอายุประมาณ 4 ขวบ ในขณะที่ยังไม่มีการพิสูจน์ (หรือหักล้าง) ว่ากอริลลาหรือชิมแปนซีสามารถพัฒนาทฤษฎีจิตได้หรือไม่[21] แต่นี่ก็จริงด้วยสำหรับลิงโลกใหม่บางชนิดที่อยู่นอกวงศ์ลิงใหญ่ด้วย เช่น ลิงคะพูชิน
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่สามารถทดสอบได้ว่าสมาชิกต้น ๆ ของ Hominini ว่ามีสมรรถภาพทางทฤษฎีจิตหรือไม่ แต่การทำเป็นไม่สนใจความคล้ายคลึงกันกับสายพันธุ์ลูกพี่ลูกน้องก็เป็นเรื่องยาก เช่น อุรังอุตังมีการพัฒนาวัฒนธรรมที่เทียบเท่ากับของชิมแปนซี[22] นักวิชาการบางคนยังกล่าวด้วยว่า อุรังอุตังอาจเข้าเกณฑ์ในเรื่องสมรรถภาพทางทฤษฎีจิตด้วย การอภิปรายทางวิทยาศาสตร์นี้มีนัยสำคัญทางการเมืองสำหรับผู้สนับสนุนแนวคิดความเป็นบุคคลของลิงใหญ่
ลิงใหญ่เป็นไพรเมตไร้หาง สปีชีส์ที่เล็กที่สุดคือโบโนโบ มีน้ำหนัก 30–40 กิโลกรัม ชนิดใหญ่ที่สุดคือกอริลลาตะวันออก ตัวผู้หนัก 140–180 กก. ในลิงใหญ่ทั้งหมด ตัวผู้โดยเฉลี่ยจะใหญ่และแข็งแรงกว่าตัวเมีย แต่ระดับภาวะทวิสัณฐานทางเพศ (คือความแตกต่างทางเพศ) จะต่างกันมากตามสายพันธุ์ ฟันของโฮมินิดจะกล้ายกับของลิงโลกเก่าและชะนี โดยของลิงกอริลล่าจะใหญ่เป็นพิเศษ สูตรจำนวนฟันกับชนิดฟันของกรามซีกหนึ่งก็คือ คือแบ่งเป็น ฟันตัด.ฟันเขี้ยว.ฟันกรามน้อย.ฟันกราม โดยเหนือเส้นระบุฟันบน ใต้เส้นระบุฟันล่าง ฟันและขากรรไกรมนุษย์เล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับขนาดกายโดยเปรียบเทียบกับเอปอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นการปรับตัวไม่ใช่เพียงไปใช้เครื่องมือเพื่อแทนที่บทบาทของขากรรไกรในการล่าสัตว์และการต่อสู้เท่านั้น แต่ปรับตัวไปกินอาหารปรุงสุกตั้งแต่สมัยไพลสโตซีนด้วย[23][24]
แม้สปีชีส์โฮมินิดที่ยังมีส่วนใหญ่จะเดินสี่ขาเป็นหลัก แต่ทั้งหมดก็ใช้มือเพื่อเก็บอาหารหรือเก็บวัสดุทำที่นอน และในบางกรณีก็ใช้เครื่องมือได้[25] สามารถสร้างที่นอนที่ซับซ้อน หรือที่เรียกว่ารัง บนต้นไม้เพื่อนอนในตอนกลางคืน แต่ชิมแปนซีและกอริลลาก็สร้างรังบนพื้นดินด้วย และกอริลลายังสามารถนอนบนพื้นดินเปล่าได้[26]
ทุก ๆ สปีชีส์กินได้ทั้งพืชและสัตว์ แม้ชิมแปนซีและอุรังอุตังจะกินผลไม้เป็นหลัก[27] เมื่อกอริลลาขาดแคลนผลไม้ในบางช่วงของปีหรือในบางภูมิภาค ก็จะหันไปกินหน่อและใบไม้ โดยเฉพาะไผ่ซึ่งเป็นพืชในวงศ์หญ้า กอริลลาได้ปรับตัวอย่างสุด ๆ ในการเคี้ยวและย่อยอาหารคุณภาพต่ำ แม้ก็ยังชอบผลไม้มากกว่าเมื่อมีให้กิน โดยมักจะเดินทางไกลเป็นหลาย ๆ กิโลเพื่อไปหาผลไม้ที่ชอบ ส่วนมนุษย์ตั้งแต่การปฏิวัติยุคหินใหม่ ได้บริโภคธัญพืชและอาหารจำพวกแป้งเป็นหลัก รวมถึงอาหารที่แปรรูปเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดจนพืชเพาะปลูกอื่น ๆ (รวมถึงผลไม้) และเนื้อสัตว์
ระยะการตั้งครรภ์ของลิงใหญ่อยู่ที่ 8–9 เดือน โดยคลอดลูกตัวเดียวหรือน้อยครั้งเป็นแฝด ทารกเกิดใหม่จะช่วยตัวเองไม่ได้และต้องดูแลเป็นเวลานาน ลิงใหญ่มีช่วงวัยรุ่นที่ยาวนานและไม่หย่านมเป็นเวลาหลายปีเทียบกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่[28] และจะไม่โตเต็มที่จนถึงอายุ 8–13 ปีในสปีชีส์โดยมาก (และยาวกว่านี้อีกในอุรังอุตังและมนุษย์) ดังนั้น เพศเมียจึงมักคลอดลูกเพียงตัวเดียวทุก ๆ 2–3 ปี ไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอน[25]
กอริลลาและชิมแปนซีอยู่เป็นครอบครัวประมาณ 5–10 ตัว แต่บางครั้งก็พบกลุ่มใหญ่กว่านี้ ชิมแปนซีอาศัยอยู่เป็นกลุ่มใหญ่กว่า แต่จะแตกออกเป็นกลุ่มเล็กลงเมื่อผลไม้หายากขึ้น เมื่อชิมแปนซีตัวเมียแยกเป็นกลุ่มเล็กไปในทิศต่าง ๆ เพื่อหาผลไม้ จ่าฝูงตัวผู้ก็จะไม่สามารถควบคุมแล้วตัวเมียก็มักจะผสมพันธุ์กับตัวผู้ที่เป็นลูกน้อง ในทางตรงกันข้าม กอริลลามักจะอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มไม่ว่าจะหาผลไม้ได้หรือไม่ เมื่อผลไม้หายาก ก็จะหันไปกินหน่อและใบแทน
ระดับภาวะทวิสัณฐานทางเพศ (คือความแตกต่างทางเพศ) จะต่างกันมากตามสายพันธุ์ กอริลลามีภาวะทวิสัณฐานทางเพศยิ่งกว่าชิมแปนซี นั่นคือ ความแตกต่างของขนาดระหว่างกอริลลาตัวผู้กับตัวเมียนั้นยิ่งกว่าของชิมแปนซีเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้ตัวผู้สามารถข่มตัวเมียทางกายได้ง่ายกว่า ทั้งในชิมแปนซีและกอริลลา จะมีจ่าฝูงอย่างน้อยหนึ่งตัว และตัวผู้วัยรุ่นจะออกจากกลุ่มเมื่อโตแล้ว
เนื่องจากมนุษย์สัมพันธ์ทางพันธุกรรมอย่างใกล้ชิดกับลิงใหญ่อื่น ๆ องค์กรสิทธิสัตว์บางแห่ง เช่น โครงการลิงใหญ่ (Great Ape Project) จึงอ้างว่าลิงใหญ่ที่ไม่ใช่มนุษย์จริง ๆ เป็นบุคคล และตามปฏิญญาลิงใหญ่ (Declaration on Great Apes) ควรได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ในปี 1999 นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกที่ห้ามการทดลองกับลิงใหญ่ทุกชนิด โดยปัจจุบันมีประเทศ 29 ประเทศที่ได้ห้ามการวิจัยเพื่อปกป้องลิงใหญ่จากการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ทุกรูปแบบ
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2008 รัฐสภาสเปนได้สนับสนุนกฎหมายใหม่ที่จะทำให้ "การเลี้ยงลิงใหญ่เพื่อใช้ในละครสัตว์ โฆษณาโทรทัศน์ หรือการถ่ายทำภาพยนตร์" ผิดกฎหมาย[29] เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2010 สหภาพยุโรปได้ห้ามการทดสอบลิงใหญ่[30]
ตารางต่อไปนี้แสดงจำนวนโดยประมาณของลิงใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในสวนสัตว์
สปีชีส์ | จำนวน โดยประมาณ | สถานะ การอนุรักษ์ | อ้างอิง |
---|---|---|---|
อุรังอุตังบอร์เนียว | 104,700 | ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤติ | [31] |
อุรังอุตังสุมาตรา | 6,667 | ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤติ | [32] |
อุรังอุตังตาปานูลี | 800 | ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤติ | [33] |
กอริลลาตะวันตก | 200,000 | ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤติ | [34] |
กอริลลาตะวันออก | <5,000 | ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤติ | [35] |
ชิมแปนซี | 200,000 | ใกล้สูญพันธุ์ | [36][37] |
โบโนโบ | 10,000 | ใกล้สูญพันธุ์ | [36] |
มนุษย์ (2024) | 8,073,260,400 | [38] |
ด้านล่างนี้คือแผนภาพวิวัฒนาการชาติพันธุ์โดยรวมสปีชีส์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว[39][40][41][ไม่อยู่ในแหล่งอ้างอิง] มีการระบุโดยประมาณว่าแยกออกเป็นเคลดใหม่เมื่อกี่ล้านปีก่อน (Mya)[42]
Hominidae (18) |
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
มีลิงใหญ่ 8 สปีชีส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยแบ่งออกเป็น 4 สกุล การจัดหมวดหมู่ดังต่อไปนี้มักเป็นที่ยอมรับ[1]
นอกเหนือจากสปีชีส์และสปีชีส์ย่อยที่ยังมีชีวิตอยู่ นักโบราณคดี นักบรรพชีวินวิทยา และนักมานุษยวิทยาได้ค้นพบและจัดหมวดหมู่สปีชีส์ลิงใหญ่ที่สูญพันธุ์ไปแล้วหลายชนิดดังต่อไปนี้ โดยอิงอนุกรมวิธานที่ได้แสดงไว้[44]
วงศ์ Hominidae
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.