คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ทีวีบี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
เทเลวิชัน บรอดคาสต์ ลิมิเต็ด (อังกฤษ: Television Broadcasts Limited) หรือที่รู้จักในชื่อ ทีวีบี (จีน: 電視廣播有限公司; ชื่อเดิม 無綫電視) สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินแห่งที่สองในฮ่องกง "แต่เป็นสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีแห่งแรกในฮ่องกง" จึงเกิด"ค่านิยมดูช่องทีวีบี" เป็นหลัก ทำให้มีเรตติ้งสูงกว่าช่องอื่นหลายเท่ามาเป็นเวลายาวนาน โดยเริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 โดยบริษัทได้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 มีเซอร์ รัน รัน ชอว์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานจาก 2523 ถึง 2554 เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งทั้งนี้สถานีโทรทัศน์ทีวีบีมีพนักงานลูกจ้างทั้งสิ้น 4,200 คนและสำนักงานใหญ่ของทีวีบี (ฮ่องกง ทีวีบี ซิตี) เป็นศูนย์กลางของสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและยังคงเป็นหนึ่งในสถานีวิทยุกระจายเสียงภาษากวางตุ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกด้วย[1][2][3][4][5][6][7][8]
ในอดีตยุคที่เศรษฐกิจในฮ่องกง มีการพัฒนารุดหน้าอย่างรวดเร็วกว่าหลายประเทศเพื่อนบ้าน จนได้เป็นหนึ่งใน "สี่เสือแห่งเอเชีย" (Four Asian Tigers) หรือ "สี่มังกรเอเชียเป็นชื่อกลุ่มประเทศหรือหมู่เกาะที่ใช้อ้างถึงเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ได้แก่ เกาะฮ่องกง, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง (มากกว่า 7% ต่อปี) และมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วระหว่างช่วงปี พ.ศ. 2503 – 2533 (ค.ศ. 1960-1990) ในศตวรรษที่ 21 ทั้งหมดได้พัฒนาไปสู่เศรษฐกิจที่ก้าวหน้าและมีรายได้สูง[9][10] ประชากรในกลุ่ม "สี่เสือแห่งเอเชีย" นับเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ดังนั้น ในช่วงยุค 70s-90s ต่างสามารถเข้าถึงความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์, วิทยุ, วีดีโอ และอื่น ๆ ได้เกือบทุกครัวเรือน
ทีวีบี เป็นผู้ผลิตละครโทรทัศน์และนำออกอากาศ ได้รับการจดทะเบียนในกระดานหลักของ "ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง" โดยใช้รหัสหุ้น คือ "00511" สถานีวิทยุเชิงพาณิชย์ โดยมีสำนักงานใหญ่ในเกาะฮ่องกง ให้บริการช่องความบันเทิงและข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมงแก่ผู้ชมในเกาะฮ่องกงมากกว่า 7 ล้านคนในปัจจุบันและยังดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศและจัดจำหน่ายรายการของทีวีบี เป็นรายการภาษากวางตุ้ง โดยส่วนใหญ่เผยแพร่เป็นภาษาจีนและภาษาอื่น ๆ ไปทั่วโลก รวมถึงทั่วเอเชียและประเทศอื่น เช่น จีนแผ่นดินใหญ่, ไต้หวัน, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ออสเตรเลีย, แอฟริกา, อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ รวมถึงยุโรป ครอบคลุมมากกว่า 300 ล้านครัวเรือน (ประมาณ 1,200 ล้านคน) ในขณะนั้น TVB มีพนักงานและผู้ให้ความบันเทิงประมาณ 4,600 คน โดยแยกเป็นพนักงาน (ลูกจ้าง) 4,200 คน และผู้ให้ความบันเทิง (รวมนักแสดงในสังกัด) 400 คน[11] ปัจจุบันทีวีบีมีสถานีวิทยุและโทรทัศน์ฟรี 5 ช่อง ด้วยกัน โดยช่อง เจด (TVB Jade Channel) นำเสนอรายการกวางตุ้งเป็นหลัก และ TVB Pearl นำเสนอรายการภาษาอังกฤษเป็นหลัก
Remove ads
ประวัติ
ทีวีบี[12] จดทะเบียนไว้เมื่อ พ.ศ. 2508 โดยมีเซอร์ รัน รัน ชอว์ ซื่งดำรงตำแหน่งประธานในสถานี ในปี 2510 เรี่มออกอากาศครั้งแรกทางภาพขาวดำ ในปี พ.ศ. 2513 พร้อมเครี่องส่งโทรทัศน์ 400 กิโลวัตต์ จึงออกอากาศด้วยภาพสี และมีเพลงประจำสถานีแรกว่า London Calling Hongkong ต่อมาในปี พ.ศ. 2523 จึงออกอากาศทางภาพสี และในปี พ.ศ. 2551 จึงออกอากาศทางระบบอนาล็อก ในปี พ.ศ. 2554 จึงออกอากาศทางระบบดิจิทัลทีวีในปัจจุบันนี้ และออกอากาศทางเอชดีในปัจจุบัน
ทีวีบี แบ่งเป็นกลุ่มสถานีโทรทัศน์ ได้แก่ ทีวีบีเจด ในภาษาจีน[13] และ ทีวีบีเพิร์ล ในภาษาอังกฤษ
ช่องของทีวีบี
มีหลายช่องแยกย่อย(แบ่งเป็นกลุ่มสถานีโทรทัศน์) ดังนี้:-
- TVB Jade
- TVB Pearl
- TVB Anywhere
- MyTV Super
สื่ออื่น ๆ:-
- TVBS
- TVB.com
- TVB Publishing ฯลฯ
ทีวีบีเจด
ทีวีบีเจด เป็นสถานีโทรทัศน์ซี่งออกอากาศทางภาษาจีน ซี่งมีละครโทรทัศน์จีนชุดใหญ่ และภาพยนตร์จีน[14] ซึ่งทวนรายการจากค่าย Mei Ah และ Fortune Star ในฮ่องกง ส่วนคลี่นความที่ที่ใช้ร่วมกับทีวีบีเจด ได้นำไปให้ HKTVE ทำช่องรายการใหม่ในชี่อ ViuTV ในปิ 2560[15][16]
Remove ads
อิทธิพลของละครทีวีบีในอดีต
สรุป
มุมมอง
สถานีโทรทัศน์ทีวีบี เปิดสถานีครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 นับตั้งแต่นั้น ในทุก ๆ ปี ทางทีวีบีจะนับวันนี้เป็นวันฉลองครบรอบประจำปีมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในแต่ละปีนั้นก็จะมีงานกืจกรรมให้ดาราในค่ายมาร่วมโชว์การแสดงต่าง ๆ ให้ผู้ชมทางบ้านได้ดู
ละครเรื่อง "สวรรค์จำพราก" (Dream of Love 1967) 21 ตอนจบ เป็นละครโทรทัศน์เรื่องแรกที่ผลิตขึ้นโดยช่องทีวีบี ออกอากาศเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2510 (ระยะเวลาออนแอร์ในปี พ.ศ. 2510-2511) โดยผู้อำนวยการสร้าง คือ "จงจิงฮุ่ย" ได้ออกอากาศโดยสร้างแบบอย่างให้กับละครโทรทัศน์กวางตุ้ง จนกลายมาเป็นความนิยมของกระแสหลักในรายการทีวีฮ่องกง
ละครชุดเรื่องแรกนี้ทำการออกอากาศครั้งแรกเพียงสัปดาห์ละครั้ง คือ ทุกวันพฤหัสบดี เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2512 ทางทีวีบีได้เพิ่มการออกอากาศเป็น 4 วันคือ วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี โดยออนแอร์เพียงวันละ 15 นาทีแทน และมีการเล่นซ้ำอีกทีในวันอาทิตย์ เพื่อให้คนที่พลาดรับชมในวันธรรมดาได้ดูอีกด้วย
จนต่อมาทางทีวีบี ได้มีการผลิตละครชุดเรื่องอื่น ๆ ซึ่งบางเรื่องถ้าเป็นละครฟอร์มใหญ่จะมีจำนวนตอนมากกว่า 20 ตอนบางเรื่องมีความยาวถึง 60 ตอน หรือมากกว่านั้น โดยยืดวันฉายตามสากลออกเป็น จันทร์-ศุกร์ และเวลาออนแอร์ให้ครบ 1 ชั่วโมงมาจนถึงทุกวันนี้
ละครโทรทัศน์ของค่ายทีวีบี ที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมและขยายความนิยมอย่างสูงออกสู่ตลาดเอเชีย มีหลายเรือง เช่น เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้, เทพบุตรชาวดิน, มังกรหยก 1983, คู่แค้นสายโลหิต, ชอลิ่วเฮียง 1979 เป็นต้น[17][18]
ถึงแม้ทีวีบี จะมีละครดังได้รับความนิยมในตลาดเอเชียเริ่มมาตั้งแต่ยุค 70s จนถึงยุค 90s ก่อนซีรีส์เกาหลีจะมาได้รับความนิยมในตลาดเอเชียแทน แต่ยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของละครชุดทีวีบีคือ ยุค 80s นับได้ว่าเป็นยุคทองของทางช่อง และยังส่งผลกระทบทางด้านวัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมในฮ่องกงออกสู่เอเชียอีกด้วย
ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ทีวีบีได้เริ่มก่อตั้งกลุ่ม 4 ดรุณีหยกยุค 70s (รุ่นแรก-รุ่นสอง) ขึ้นมา โดยคัดจากดาราสาวในช่องทั้งหมด เหลือเพียง 4 คนที่ได้รับความนิยมสูงประจำค่าย คือ รุ่นแรก มีสี่คนดังนี้:- .วังหมิงฉวน, หวงซูอวี้, หลีซือฉี และ เจ้าหย่าจือ
รุ่นสองในยุคเดียวกัน มีสี่คนคือ:- วังหมิงฉวน, เจ้าหย่าจือ, เจิ้งอวี้หลิง และ หวง ซิ่งซิ่ว
เหมือนกับช่วงต้นยุค 80s ที่รุ่งเรืองของทางทีวีบีก็ได้ก่อตั้งกลุ่ม 4 ดรุณีหยกยุค 80s ขึ้นมาเช่นกัน คือ องเหม่ยหลิง, เฉิน อวี้เหลียน, เจิงหัวเชี่ยน และ หลิวเจียหลิง หลังจากทางช่องสูญเสียนางเอกชื่อดังประจำค่าย อย่าง องเหม่ยหลิง ไปทางทีวีบีก็ได้ก่อตั้งกลุ่ม 5 เทพธิดามังกร ขึ้นมาแทน คือ เฉิน อวี้เหลียน, เจิงหัวเชี่ยน, ชี เหม่ยเจิน, หลันเจี๋ยอิง และ หลี เหม่ยเสียน
ส่วนทางด้านกลุ่มนักแสดงชาย ทีวีบีก็ได้ก่อตั้งหลายกลุ่มเช่นกัน เช่น ในยุคปลาย 70s มีกลุ่ม "3 พยัคฆ์เสือ" คือ โจวเหวินฟะ, หลิวสงเหยิน และ เจิ้งเส้าชิว ขึ้นมาซึ่งทั้งสามคนเป็นดาราชายแถวหน้าที่มียอดเรตติ้งสูงประจำค่าย จนต่อมาเข้าสู่ยุค 80s ยุคทองของทีวีบี ก็มีกลุ่มดาวรุ่งชายมาทดแทน 3 เสือประจำค่ายเดิม คือ กลุ่ม "5 พยัคฆ์ทีวีบี" ได้แก่ หวงเย่อหัว, เหมียวเฉียวเหว่ย, หลิวเต๋อหัว, ทัง เจิ้นเยี่ย และ เหลียงเฉาเหว่ย พวกเขาทั้ง 5 ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่ทีวีบี และได้รับความนิยมสูงทั่วเอเชีย
ต่อมาราวกลางยุค 80s เมื่อ 4 พยัคฆ์ทีวีบี(ยกเว้น เหลียงเฉาเหว่ย) มีปัญหาเรื่องการต่อสัญญาระยะยาวกับทางช่อง ทีวีบีจึงก่อตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมาคือกลุ่ม "7ภราดร" ประกอบด้วยนักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงเจ็ดคน ได้แก่ อู๋ฉีหัว, หลิวชิงหวิน, พานหงปิง, เฉินถิงเว่ย, กวนหลี่เจี๋ย, หลี่ฟาง และ เถาต้าหวี่ แต่กลุ่มนี้กลับไม่ได้รับความสนใจเท่ากลุ่ม 5 พยัคฆ์
ส่วนในยุค 90s ทีวีบียังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากยุค 80s และทางทีวีบีก็ได้มีการก่อตั้งกลุ่มเหมือนกับยุค 70s และ 80s แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่จดจำมากนัก
อดีตดาราดังประจำค่ายที่ได้กลายเป็น ซุปเปอร์สตาร์ในวงการภาพยนตร์มีหลายคน เช่น โจวเหวินฟะ, หลิวเต๋อหัว, เหลียงเฉาเหว่ย, โจวซิงฉือ และ จางม่านอวี้ เป็นต้น
จนกระทั่งปีพ.ศ. 2540 (1997) ความมีอิทธิพลต่อวงการละครชุดในเอเชีย เริ่มค่อย ๆ ถูกแทนที่โดยซีรีส์จากประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่น และยังมีคู่แข่งอย่าง ไต้หวัน ที่มีละครดังไปทั่วเอเชีย อย่าง องค์หญิงกำมะลอ โดยก่อนหน้านั้นทางไต้หวันมีละครดังเรื่อง เปาบุ้นจิ้น 1993 ที่สามารถตีตลาดทั่วเอเชียได้มาก่อน อีกทั้งทาง จีนแผ่นดินใหญ่ ก็เริ่มตีตลาดด้วยการผลิตละครชุดมาแข่งเองและเริ่มได้รับความนิยมมากกว่าในอดีต (ก่อนนั้นละครจากจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้รับความนิยม) จนท้ายที่สุดเมื่อมาถึงช่วงกลางยุค 2000s ซีรีส์เกาหลี ได้ตีตลาดทั่วเอเชียสำเร็จเป็นครั้งแรก โดยเรื่องสะดุดรักที่พักใจ (Full House 2004) และ แดจังกึม ทำให้เกิดค่านิยมและวัฒนธรรมเกาหลี ขึ้นมา กระแสซีรีส์เกาหลีฟรีเวอร์ เหนือซีรีส์ของคู่แข่งทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, จีน หรือ ไต้หวัน ล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบจากกระแสค่านิยมวัฒนธรรมเกาหลีมาจนถึงปัจจุบัน
ทุกวันนี้ความยิ่งใหญ่ในเอเชียของละครชุดทีวีบี ได้กลายเป็นอดีตแห่งตำนาน[19][20][21]
Remove ads
ละครฮ่องกงครองตลาดไต้หวัน
สรุป
มุมมอง
ย้อนกลับไปในช่วงต้น-กลางทศวรรษ 1980 ทางช่องทีวีบี (Hong Kong Television International Enterprises (TVBI) ซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับ Hong Kong TVB ได้ย้ายไปไต้หวัน โดยร่วมมือกับ "ชิวฟู่เซิง" (邱復生) ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ชาวไต้หวันเพื่อให้บริการออกอากาศละครฮ่องกงของทีวีบี (TVB) ส่งผลให้ละครฮ่องกงเริ่มครองตลาดไต้หวัน ในยุคแรก ๆ ละครทีวีฮ่องกงหลายเรื่องรวมถึงละครที่ดัดแปลงจากนิยายของ กิมย้งและโกวเล้ง เช่น ชอลิ้วเฮียง 1979 (楚留香), มังกรหยก 1983 (射鵰英雄傳 (1983年電視劇), 8 เทพอสูรมังกรฟ้า 1982 (天龍八部 1982年電視劇) และ เล็กเซียวหงส์ 1976-1978 (陆小凤) เป็นต้น ได้ทยอยนำไปออกอากาศในไต้หวัน ซึ่งละครเหล่านี้ต่างได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวไต้หวัน[22]
เจิ้งเส้าชิว (郑少秋) หนึ่งในตัวละครเอกของละคร ชอลิ้วเฮียง 1979 ได้กลายเป็นไอดอลในดวงใจของแฟน ๆ ชาวไต้หวันหลายล้านคน และ หลิวสงเหยิน (劉松仁) ก็เป็นอีกหนึ่งพระเอกในดวงใจของชาวไต้หวัน นอกจากนั้นยังมี หวงเย่อหัว (黄日华) และ องเหม่ยหลิง (翁美玲) ก็ได้รับความนิยมในไต้หวันจากละครเรื่อง มังกรหยก ภาคก๊วยเจ๋ง (1983) ที่สร้างความฮือฮาในตลาดวิดีโอ จนได้มาออกอากาศทางช่องสี่ ในไต้หวันด้วยเช่นกัน
จากความสำเร็จอย่างมากของละครฮ่องกงในไต้หวัน สร้างความสั่นสะเทือนวงการจอแก้วไต้หวัน เพื่อรักษาตลาดทีวีท้องถิ่น ไต้หวันเริ่มจำกัดการนำเสนอละครศิลปะการต่อสู้เวอร์ชันฮ่องกง และในขณะเดียวกันก็เริ่มผลิตละครศิลปะการต่อสู้ในท้องถิ่นของตนเอง
แต่ไม่นานละครฮ่องกง ก็กลับมาออกอากาศหน้าจอทีวีไต้หวันได้อีกครั้ง หลังจากนั้นละครเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (上海灘), กระบี่ไร้เทียมทาน (天蠶變) และต่อมา ขวัญใจโปลิส ภาค1 (新紮師兄) และเรื่องอื่น ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาในไต้หวัน ทำให้ผู้ชมชาวไต้หวันสดชื่น ประทับใจ และหลงใหลในละครฮ่องกง
ในทางกลับกัน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านทีวีที่กลับมาจากสิงคโปร์ก็เดินทางไปไต้หวันเพื่อพัฒนาและถ่ายทำละครความยาวระดับไพร์มไทม์และละครตอนยาวของสถานีโทรทัศน์ไต้หวันหลาย ๆ เรื่อง มาตรฐานการผลิตและเรทติ้งอยู่ในระดับสูง พวกเขากลายเป็นเสาหลักสำคัญของละครทีวีไต้หวัน ตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1980 ถึงกลางทศวรรษที่ 1990 ผู้เชี่ยวชาญด้านโทรทัศน์ของฮ่องกงจำนวนมากรวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังมักจะไปถ่ายทำละครที่ไต้หวันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะสนับสนุนและสื่อสารกัน
ทีวีฮ่องกงได้รับความนิยมมากกว่าในพื้นที่ชายฝั่งกวางตุ้งของจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่การปฏิรูปและการเปิดประเทศ การรับชมทีวีฮ่องกงได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของชาวกวางตุ้ง และกลายเป็นแหล่งความบันเทิงและข้อมูล ยกตัวอย่าง พื้นที่ชนบทของตงกว่าน เกือบทุกครัวเรือนเปิดทีวีดูละครทีวีฮ่องกง มันคือทีวีฮ่องกงซึ่งสามารถรับชมได้ ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดภาพยนตร์ฮ่องกงตกต่ำ ผู้สร้างภาพยนตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านโทรทัศน์จำนวนมากได้เดินทางกลับไปยังประเทศจีนเพื่อสร้างภาพยนตร์โทรทัศน์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในประเทศ การผลิตรายการโทรทัศน์ในประเทศมีความเข้มแข็งและมั่งคั่งมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โมเมนตัมค่อนข้างคล้ายกับอุตสาหกรรมโทรทัศน์ของฮ่องกงในทศวรรษที่ 1970 แนวโน้มดูน่าสนับสนุน
ปัจจุบันละครฮ่องกง อาจจะไม่มีอิทธิพลต่อผู้ชมในไต้หวัน เท่าในอดีตตอนช่วงยุคทองละครฮ่องกง
Remove ads
การวัดเรตติ้งสองยุค (สี่ช่วง)
สรุป
มุมมอง
ยุคแรกตั้งแต่กลางยุค 70-80
เรตติ้ง คือ จำนวนผู้ชมหน้าจอ (ครั้งแรก) ของทีวีช่องหลัก เป็นการวัดความสำเร็จจากการออกอากาศครั้งแรกว่ามีผู้สนใจดูละครหรือรายการนั้น ๆ มากน้อยเพียงใด ตัวเลขในทางสถิติ ที่ผ่านการวิเคราะห์ ประมาณจำนวนผู้ชม ที่ชมรายการ, ละคร เวลาใดเวลาหนึ่ง โดยใช้เกณฑ์ การวัดจากผู้ชมในประเทศ เพื่อใช้ในการบริหารงานด้านโฆษณาของแต่ละสถานี (เรตติ้งมาก = กำไรมาก) โดยนักลงทุนในพื้นที่สื่อโทรทัศน์ได้ใช้ระบบเรตติงโดยวัดความนิยมจากจำนวนคนดูรายการโทรทัศน์ ถ้ารายการใดคนดูมาก รายการนั้นก็จะได้รับการสนับสนุนการโฆษณามากกำไรก็มากตาม โดยจะถือการวัดเรตติงการออกอากาศหน้าจอครั้งแรกเป็นสำคัญ และจะไม่ใช่ยอดผู้ชมดังต่อไปนี้
- ยอดการออกอากาศทางทีวีซ้ำ ละครที่มีการออกอากาศหน้าจอซ้ำตั้งแต่ครั้งที่ 2 ขึ้นไปจะไม่นับเป็นเรตติ้งความสำเร็จเหมือนครั้งแรกที่ออกอากาศ
- ยอดรีรันอื่น ๆ ย้อนหลังที่จะดูตอนไหนก็ได้ จะไม่นับเป็นยอดเรตติงเหมือนครั้งแรกเช่นกัน
ทีวีบีใช้ร่วมกับเอทีวี (รวมถึงค่ายเจียซื่อในยุค 70) เพื่อวัดเรตติ้งของละครแต่ละค่ายที่ฉายชนแย่งเรตติงกันทางช่องหลัก ซึ่งระบบการจัดเรตโทรทัศน์อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการการสื่อสารแห่งฮ่องกง ด้วยวิธีมาตราฐานโดยการใช้กำลังวัดตามจุดที่เปิดโทรทัศน์ทั่วทั้งเกาะฮ่องกง โดยคิดออกมาเป็นกำลังคนดูทั้งเกาะเป็น 100% และยังมีคะแนนต่อจุดต่อตอน ซึ่งใช้การคำนวณหาจากจำนวนผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกันในทะเบียนบ้านของแต่ละหลัง เช่น โดยเฉลี่ย 4 คนต่อ 1 ครัวเรือนตามทะเบียนบ้าน เท่ากับ 1 ครัวเรือนเมื่อเปิดทีวีดูละครช่องไหน จะมี 4 คนดูช่องนั้นตามไปด้วย นอกจากบ้างครัวเรือนที่มีฐานะดีหน่อยก็จะมี ทีวี 2 เครื่องต่อครัวเรือน และยังมีการสำรวจครัวเรือนที่ไม่มีโทรทัศน์ดู โดยทั่วไปในเกาะฮ่องกงผู้คนจะมีโทรทัศน์ดูกันเกือบทุกครัวเรือน ยกตัวอย่างเช่น ประชากรในปี พ.ศ. 2526 (1983) ประชากรทั้งเกาะมี 5,345.000 คน ได้มีการสำรวจผู้คนที่ไม่สามารถดูทีวีได้ประมาณ 345,000 คน ดังนั้นจะเหลือ 5 ล้านคนคือจำนวนที่สามารถดูทีวีได้ นำมาใช้ในการคำนวณหาจำนวนผู้ชมละครของแต่ละค่ายในปีนั้น ๆ โดยดูค่าเฉลี่ยทั้งเกาะของผู้คนที่อาศัยต่อ 1 ครัวเรือนที่มีโทรทัศน์ดู และเป็นวิธีที่มีการรองรับเชื่อถือได้และมีความแม่นยำสูงถึง 80%
สรุปการคำนวณเรตติ้งยุคแรก ถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วงดังนี้
ช่วงแรก (ยุค 70-1982)
ช่วงแรกของยุคแรก ใช้ระบบแมนนวล (manual) บริษัทวิจัยตลาดของฮ่องกงรวบรวมข้อมูลการคำนวณเรตติ้งในรูปแบบของ "ไดอารี่ทีวี" โดยวัดเรตติ้งจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยถาวรในครอบครัวที่มีทีวีดูอยู่ในระบบและมีการบันทึกข้อมูลเรตติ้งจากการเปิดทีวีดู ทุก ๆ 15 นาทีในครัวเรือนของแต่ละหลัง ทำให้รู้ว่าสถานีโทรทัศน์ที่พวกเขาในครัวเรือนนั้นดูคือช่องอะไร, จำนวนผู้ชมเท่าไร เป็นต้น การวัดเรตติงด้วยระบบ "ไดอารี่" นี้จุดประสงค์ใช้เพื่อจัดทำสถิติรวมถึงการวิเคราะห์ และการคำนวณผลการดูของพื้นที่ทั้งหมดตามอัตราส่วน
แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการคำนวณแบบนี้ต้องอาศัยผู้ตอบแบบสอบถามของผู้อยู่อาศัยในครัวเรือนด้วยการกรอกข้อมูลด้วยตนเอง จึงอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ ในกรณีที่ผู้อยู่อาศัยในครัวเรือนนั้น ๆ เกิดมีการย้ายที่อยู่และจำนวนตัวเลขของผู้อยู่อาศัยจริงไม่ได้อัปเดต จนทำให้เกิดระบบใหม่ที่แม่นยำขึ้นมา ในช่วงที่ 2 ของยุคแรกนี้ในปี พ.ศ 2526 (1983)
ช่วงสอง (ปี ค.ศ 1983-เดือน กันยายน 1991)
เพื่อให้ระบบการคำนวณที่แม่นยำขึ้นจากเดิม บริษัทวิจัยตลาดจึงนำระบบใหม่มาใช้ร่วมกับระบบเดิม โดยใช้การบันทึกด้วย "เครื่องบันทึกการดูทีวี" ในปี พ.ศ. 2526 (1983) เพื่อรวบรวมข้อมูลการรับชมทั้งหมด ซึ่งใช้ร่วมกับระบบ "ไดอารี่ทีวี" และเครื่องบันทึกการดูทีวีจะทำการบันทึกการดูช่องทีวีในครัวเรือนของแต่ละค่าย รวมถึงการเปลี่ยนทีวี ดูช่องอื่น ๆ และการสลับช่องดูไปมาของแต่ละครัวเรือน ได้โดยอัตโนมัติ ข้อดีของระบบนี้คือ สามารถรวบรวมข้อมูลไว้ได้ทั้งสองประเภท และมีความแม่นยำสูง โดยละครเรื่องแรกของช่องทีวีบี ที่ถูกคำนวณเรตติ้งคะแนนด้วยระบบผสมนี้ คือ เรื่อง "สมิงสาวใจเพชร 《十三妹 1982》" ที่ออนแอร์ต้นปีพ.ศ. 2526 (1983)
ยุคสอง ตั้งแต่ยุค 90- ปัจจุบัน
ช่วงแรก (เดือนตุลาคม ค.ศ. 1991-2012)
เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนวิธีให้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น ด้วยการสุ่มยอดคนดูจากจุดชมวิวทั่วเกาะฮ่องกง 100 จุดต่อจำนวนประชากรที่อาศัยต่อจุด เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการวัดเรตติ้งในยุคก่อนแล้ว การคำนวณหายอดเรตติงจะง่ายและรวดเร็วยิ่งกว่าเดิมโดยเริ่มมีการใช้ "คอมพิวเตอร์" เข้ามามีบทบาทอย่างเต็มรูปแบบและมีความน่าเชื่อถือสูงมากเช่นกัน[23]
ตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2534 (1991) ฮ่องกงได้เปลี่ยนการคำนวณหาเรตติงแบบผสมของระบบเดิม คือ "ไดอารี่ทีวี" และ "เครื่องบันทึกครัวเรือน" มาเป็น "เครื่องบันทึกการดูข้อมูลส่วนบุคคล" แทน ซึ่งระบบนี้สามารถบันทึกการรับชมต่อวินาทีทันทีและจะถูกส่งไปยังระบบคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว เพื่อทำการวิเคราะห์ทางสายสัญญาณทุกวันและรับรายงานการรับชมทางทีวีและส่งไปยังสถานีโทรทัศน์และบริษัทโฆษณาในฮ่องกงด้วย (CSM Sofrey Media Research) ระบบนี้จะรับผิดชอบในการสำรวจและการให้คะแนนของละครนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ใน 800 ครัวเรือนที่เข้าร่วมระบบนี้จะรวมถึงกลุ่มเป้าหมายในครัวเรือนที่มีอายุมากกว่า 4 ปีขึ้นไป มาคำนวณหา คะแนนเรตติ้งของละครหรือรายการนั้น ๆ แสดงถึงเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดได้ โดยในหนึ่งคะแนนของเรตติงจะเท่ากับผู้ชม 65,000 คนที่กำลังดูละครหรือรายการของช่องนั้น ๆ อยู่ (จำนวนตัวเลขเปลี่ยนแปลงตามจำนวนประชากรที่ไม่เท่ากันในแต่ละปี)
ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2552 (2009) ระบบการใช้ "เครื่องบันทึกการรับชมส่วนบุคคล" ยังสามารถบันทึกข้อมูลการสำรวจยอดคนดูทีวีดิจิตอล ได้อีกด้วย ซึ่งความถูกต้องของข้อมูลนั้นสูงมาก จึงทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการรับชมของผู้ชมทางทีวีได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อให้สถานีโทรทัศน์และผู้โฆษณาสามารถมุ่งทรัพยากรไปที่ผู้ชมกลุ่มป้าหมายได้รวดเร็วแม่นยำกว่าระบบเก่า
แต่อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของผู้ชมในยุค 90 เริ่มเปลี่ยนจากยุค 80 มีการสำรวจพบว่าในช่วงเวลา 18.00-22.00 น. ผู้คนที่นิยมทำกิจกรรมนอกบ้านมีเพิ่มสูงขึ้นจากคนในยุคก่อน มากยิ่งขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนจากยุค 80 ซึ่งเป็น "ยุคทองละครทีวีฮ่องกง" เข้าสู่ยุค 90 ซึ่งเป็น "ยุคทองภาพยนตร์ฮ่องกง" ในช่วงยุคที่ภาพยนตร์ฮ่องกงบูมสุดขีด จำนวนผู้คนที่นิยมออกนอกบ้านไปดูหนังในโรงหนังหลังเลิกงานและช่วงหัวค่ำพบว่ามีจำนวนสูงขึ้นกว่าในยุค 80 รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลกระทบโดยตรงต่อยอดผู้ชมที่เฝ้าดูรายการทางทีวี จึงทำให้เรตติงค่าเฉลี่ย และเรตติ้งสูงสุด ลดน้อยลงจากยุคก่อน อย่างเห็นได้ชัด โดยยุคหลัง (ตั้งแต่ยุค 90-ปัจจุบัน) ละครแต่ละเรื่องทำเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนได้ไม่เกิน 45 จุดเปิด ส่วนเรตติงสูงสุดได้ไม่เกิน 50 จุดเปิดเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับเรตติงของละครยอดนิยมในช่วงยุค 80s
ส่วนเรตติงละครในยุค 70s-80s ที่มีเรตติงเฉลี่ยต่อตอนเกิน 45 จุดเปิด เช่น มังกรหยกภาค 1 เวอร์ชัน 1983 มีเรตติงเฉลี่ยต่อตอน 65 จุดเปิด, มังกรหยก ภาค 2 เวอร์ชัน 1983 มีเรตติงเฉลี่ยต่อตอน 62 จุดเปิด, เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ มีเรตติงเฉลี่ยต่อตอน 60 จุดเปิด เป็นต้น ซึ่งสูงกว่าเรตติงเฉลี่ยต่อตอนของละครในยุค 90s จนถึงปัจจุบันทั้งหมด
ช่วงสอง (ค.ศ. 2013-ปัจจุบัน)
เข้าสู่ยุคแพลตฟอร์ม (Platform) ในโลกอินเทอร์เน็ต จึงมีการวัดเรตติงแบบใหม่ให้ทันยุคสมัย โดยยังคงวัดจากจุดชมวิวแบบยุค 90s เป็นหลัก แต่มีการหาเรตติ้งที่ครอบคลุมพื้นที่การดูสดผ่านทางทีวีและออนไลน์ เช่น พวกแพตฟอร์มที่ขึ้นตรงกับทางทีวีบี นำมาคำนวณหาเรตติงแท้จริงร่วมกับเรตติ้งที่ดูหน้าจอทีวี ซึ่งจะทำให้ได้ยอดคนดูสดทางออนไลน์กับยอดคนดูสดทางหน้าจอทีวีที่แท้จริงในปัจจุบัน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 (2018) รายการรับชมละครฮ่องกงทีวีบี ทางช่อง ทีวีบีเจด (Jade Channel) ตัวเลขทั้งหมดปัดเศษเป็นตัวเลขหลักเดียวที่ใกล้ที่สุด
มีการวัดเรตติ้งจำนวนผู้ชมข้ามแพลตฟอร์มโดยเฉลี่ยทั้งหมด ทั้งทางช่อง ทีวีบี เจด (TVB Jade Channel และ มายทีวี ซุปเปอร์ (myTV SUPER 7-day cross) โดยวัดสถิติผู้ชมรวมแพลตฟอร์มใน 7 วัน คือ 1 มกราคม - 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 (2018)
ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 (2018) จะมีการบันทึกเรตติ้งข้ามแพลตฟอร์ม 7 วันและยอดสถิติการรับชมสื่อต่างประเทศทั้งหมด[24]
Remove ads
สิบอันดับละครทีวีบีที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดในฮ่องกง
สรุป
มุมมอง
เรตติ้ง หรือ "อัตราการดู" เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญมากในการวัดความสำเร็จของรายการทีวี ระดับเรตติงสามารถกำหนดและบ่งบอกถึงรายได้ของทางสถานีโทรทัศน์และยังเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางการผลิตรายการในอนาคต
ทุกสถานีโทรทัศน์ มักใช้การให้คะแนนเรตติงเพื่อโปรโมตรายการ อันที่จริง จำนวนผู้ชมทีวีที่ดูทีวีสามารถบ่งบอกความนิยมของรายการนั้น ๆ แบ่งออกได้เป็นสองแบบ
- การจัดอันดับทีวี: การให้คะแนนเรตติ้งสามารถช่วยสถานีโทรทัศน์ของแต่ละช่อง จัดตารางรายการทีวีและประเมินเวลาโฆษณาได้ในเวลาที่แตกต่างกันตามข้อมูล
- ดัชนีชี้วัดความชื่นชมของรายการทีวี: ดัชนีความชื่นชม สามารถทราบการประเมินความชื่นชอบของผู้ชมในละครหรือรายการนั่น ๆ ว่าสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ชมได้มากน้อยเพียงใด
ทีวีบี เริ่มผลิตละครเป็นของตัวเองลงสู่จอโทรทัศน์ครั้งแรก เมื่อปลายปี พ.ศ. 2510 (1967) แต่มีการวัดเรตติ้งละครแบบสากลครั้งแรกในปี พ.ศ. 2517 (1974) เพื่อวัดความนิยมในตัวของดาราและละครเรื่องนั้น ๆ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญในการมอบรางวัลแก่ดาราที่ได้รับความนิยมในแต่ละปีอีกด้วย
ต่อมาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2534 (1991) ทางส่วนภูมิภาคฮ่องกงได้เปลี่ยนรูปแบบการคำนวณหาเรตติ้งให้ง่ายขึ้นและรวดเร็วกว่าแบบเดิม โดยใช้การจัดทำบันทึกการรับชมส่วนบุคคลขึ้นมา และใช้ระบบคำนวณรายการทีวีหาเรตติ้งเฉลี่ย แบบใหม่เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณหายอดคนดูต่อคนมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยจุดดูเป็นวิธีการคำนวณอัตราการดูรายการทีวีของฮ่องกง โดยใช้ประชากรในภูมิภาคที่สามารถดูทีวีได้เป็นเกณฑ์ตามมาตรฐาน 100 จุดเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น ในจุดชมวิวของเกาะฮ่องกงจะมีผู้ชม 64,820 คนต่อ 1 จุดดังนั้นใน 100 จุดจะเท่ากับ 6,4820,000 คน ของจำนวนประชากรในปีนั้น ๆ และจะมีการปรับเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นประจำปี
เมื่อถึงยุค 90 ทีวีบีเรื่มวัดเรตติ้งโดยได้ใช้เครื่องมือสำรวจเรตติ้งแบบส่วนบุคคลเพื่อบันทึกเรตติ้งของละครครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 (1991) และตั้งแต่ยุค 90 จนถึงปัจจุบัน (ไม่นับรวมยุค 70-80) มีละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในตอนอวสาน คือ เรื่อง "วุ่นรัก ซือเจ๊อลวน"(War of the Genders 2000)ที่นำแสดงโดย เจิ้งอวี้หลิง ละครเรื่องนี้สร้างสถิติการรับชมสูงสุดในช่วงเวลาที่ไม่ใช่ไพรม์ไทม์ โดยมีเรตติ้งค่าเฉลี่ย 35 จุดเปิดและสถิติเรตติ้งการรับชมสูงสุด 50 จุดเปิดในตอนอวสาน เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2000 และเรื่อง ศึกบุปผาวังมังกร ก็มีเรตติงสูงสุดถึง 50 จุดเปิด เช่นกัน
ในช่วงที่เปลี่ยนการวัดเรตติ้งแบบใหม่ตั้งแต่ยุค 90 มาจนถึงปัจจุบัน เกิดปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่อผู้ชมโทรทัศน์ ทำให้เรตติ้งละครของยุคหลัง 80 เป็นต้นมามีเรตติ้งค่าเฉลี่ยไม่ถึง 45 จุดเปิด และเรตติงสูงสุดได้ไม่เกิน 50 จุดเปิด[25][26][27][28][29][30][31]
สิบอันดับละครเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนสูงสุดในฮ่องกง
เป็นเรตติงเฉพาะในเกาะฮ่องกง นับรวมละครของทีวีบีตั้งแต่ยุค 70 จนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนกว่าพันเรื่อง ซึ่งตั้งแต่ยุค 70-ปัจจุบัน มีละครเพียง 7 เรื่องที่มีเรตติงเฉลี่ยต่อตอนถึง 60 จุดเปิด[32] โจวเหวินฟะ กับ องเหม่ยหลิง คือ พระเอก-นางเอก ที่มีละครสามารถทำเรตติงเฉลี่ยถึง 60 จุดเปิด ได้คนละ 2 เรื่อง
เรตติ้งค่ายอื่น
ในยุคทศวรรษ 70 คู่แข่งขันในวงการจอแก้วที่สำคัญของ ทีวีบี คือ ค่ายอาร์ทีวี (RTV) หรืออีกชื่อที่รู้จักกันดีในยุค 80 คือ เอทีวี (ATV) และ เจียซื่อ (CTV) ทั้งสองค่ายต่างใช้การวัดเรตติ้งร่วมกันกับทีวีบี เมื่อมีการเปิดทีวีดูละครทางช่องไหน เรตติ้งจะพุ่งขึ้นไปทางช่องนั้นทันที
แต่เรตติ้งคนดูของทั้งช่องอาร์ทีวี และ เจียซื่อ นั้นละครทุกเรื่องเมื่อนำมาหาค่าเฉลี่ยออกมาต่อตอนแล้วกลับไม่สูง อาจจะมีละครบางเรื่อง เช่น กระบี่ไร้เทียมทาน และ มังกรหยก 1976 (ฉบับไป่เปียว-หมีเซียะ) เป็นต้น ที่ตอนออนแอร์ บางช่วงบางตอน สามารถทำเรตติ้งสูงกว่าละครของ ทีวีบี ที่ฉายชนได้เป็นบางครั้งบางตอน (ชั่วคราว) แต่พอมาคำนวณทุก ๆ ตอนแล้ว เรตติ้งค่าเฉลี่ยต่อตอนกลับไม่สูง เท่าละครยอดนิยมของทางช่อง ทีวีบี ทั้งในยุคเดียวกันและยุคอื่น
Remove ads
สิบอันดับแรกของละครทีวีบีที่มีเรตติงสูงที่สุดในโลก
สรุป
มุมมอง
ต่อไปนี้คือละครโทรทัศน์ฮ่องกง 10 เรื่องที่มียอดผู้ชมดูสด (ครั้งแรก) มากที่สุดในโลก (該劇是TVB全球收視率最高的十部劇集之一) ตามสถิติรายงานในงานการเฉลิมฉลองไต้หวันของทีวีบี (TVB) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 (1995) และยังเป็นละครโทรทัศน์ของฮ่องกงที่มียอดผู้ชมดูสดผ่านโทรทัศน์สูงสุดทั่วเอเชียอาคเนย์ เป็นการรวมเรตติงเฉลี่ยและยอดผู้ชมทั้งในเอเชีย เช่น มาเลเซีย, ไทย, เวียดนาม สิงคโปร์, ไต้หวัน, มาเก๊า, อินโดนีเซีย เป็นต้น (ไม่รวมเรตติงในจีน) รวมถึงเรตติงทั่วทุกมุมโลกที่ละครทีวีบีได้นำไปฉายทางทีวีในย่านชุมชนคนจีนในต่างประเทศ เช่น ไชน่าทาวน์ในอเมริกา, อังกฤษ และยุโรป
โดยเป็นการมอบรางวัลในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 28 ปีของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ภายใต้ชื่อรางวัลว่า "10 อันดับละครทีวีบีที่มียอดคนดู (สด) มากที่สุดในประวัติศาสตร์" โดยคัดทุกเรื่องที่มีเรตติงคะแนนเฉลี่ยต่อตอนสูงทั่วเอเชีย ซึ่งเป็นการนับยอดคนดูสดครั้งแรกที่ออกฉายในแต่ละประเทศรวมในการฉายทั่วนอกเขตฮ่องกงทั้งหมด โดยมียอดรวมผู้ชมดูสดทั้ง 10 เรื่องมากกว่า 2,200 ล้านคน[33]
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- ในงานมอบรางวัล ทั้ง 10 อันดับในรายการได้บอกยอดรวมผู้ชมมาแบบละเอียดครบถ้วน
- เรตติงไม่รวมของจีน ถ้านับรวมเรตติ้งทางจีนด้วย จะทำให้อันดับหนึ่ง เป็นเรื่อง มังกรหยก ภาค 1 (1983) แทน คู่แค้นสายโลหิต และเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ก็เข้าในสิบอันดับแรกในรางวัลด้วยเช่นกัน เพราะทั้งเรื่อง มังกรหยก ภาค 1 (1983) และ เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ สามารถทำเรตติ้งยอดผู้ชมสูงสุดในสิบอันดับแรกของประเทศจีน ได้
- ไม่รวมยอดการฉายรีรัน (เพราะไม่ใช่ยอดดูสดครั้งแรกเป็นการดูย้อนหลัง) แต่ละเรื่องจะมีการฉายรีรัน แตกต่างกันเพราะฉายซ้ำไม่เท่ากัน เช่น มังกรหยก ภาค 1 (1983) มีการฉายรีรันในจีนหลายครั้ง แต่ละครฮิตในอดีตบางเรื่องไม่เคยฉายรีรันเลยก็มี
Remove ads
ละครฮ่องกงที่มีเรตติงสูงสุดในจีน
สรุป
มุมมอง
มังกรหยก ภาค 1 (1983) ฉบับ หวงเย่อหัว กับ องเหม่ยหลิง คือ ละครฮ่องกงที่มีเรตติงสูงสุดในจีนตลอดกาล
ต่อไปนี้คือตาราง สิบอันดับละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในประวัติศาสตร์ของจีน โดยรวมทั้งละครของฮ่องกง, ไต้หวัน และจีน[34]
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- ในตารางสิบอันดับละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในประวัติศาสตร์ของจีน มีละครของทางฝั่งเกาะฮ่องกง ของทั้งทางค่ายทีวีบีและเอทีวี เพียง 3 เรื่อง (จากหลายร้อยเรื่องที่นำไปฉายในจีน) ที่สามารถทำเรตติ้งสูงสุดใน 10 อันดับแรกได้ คือ
- มังกรหยก ภาค 1/1983 (The Legend of conder heroes) ละครทางค่ายทีวีบี โดยอยู่อันดับ 5 ในตาราง กลายเป็นละครทางฝั่งฮ่องกงที่มีเรตติงสูงสุดในจีนตลอดกาล
- เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (上海灘 1980) ละครทางค่ายทีวีบี โดยอยู่อันดับ 7 ในตาราง
- นักชกผู้พิชิต (大俠霍元甲 1981) ละครทางค่ายเอทีวี หรือ อาร์ทีวี โดยอยู่อันดับ 8 ในตาราง
ละครฮ่องกงที่มีการรีรัน (ฉายซ้ำ) มากที่สุดในจีน
มังกรหยก ภาค 1 (1983) เวอร์ชัน หวงเย่อหัว, องเหม่ยหลิง นำแสดง เป็นละครชุดของฮ่องกงที่มีการรีรันในจีนหลายครั้ง
ทุกวันนี้ยังคงเป็นละครฮ่องกงรีรันซ้ำบ่อยมากที่สุดในจีน[35] ถือได้ว่าเป็นละครชุดจากฮ่องกง สุดคลาสสิกที่ประสบความสำเร็จในจีนอย่างมากมาย
Remove ads
สิบอันดับละครยอดนิยมแห่งศตวรรษที่ 20 ในสิงคโปร์และมาเลเซีย
สรุป
มุมมอง
ต่อไปนี้คือสิบละครคลาสสิกที่วัดจาก เรตติง, ยอดจำหน่ายเทปวีดีโอและซีดี และความนิยมของผู้ชม ในสิงคโปร์และมาเลเซีย
ก่อนเข้าสู่ยุคศตวรรษที่ 21 วงการจอแก้วทั้งในสิงคโปร์และมาเลเซีย ได้มีการคัดเลือก 100 ละครยอดนิยมตั้งแต่ยุค 70s - ปี ค.ศ. 1999 ของทั้ง ฮ่องกง, ไต้หวัน และจีน ที่เคยนำมาออกอากาศในสิงค์โปร์และมาเลเซีย โดยละครแต่ละเรื่องพิจารณาจาก:-[36][37]
- วัดตามเรตติงสูงสุดที่ทำได้ (ในสิงค์โปร์และมาเลเซีย)
- จำนวนเทปวิดีโอและวีซีดีทั้งหมดที่จำหน่ายหรือให้เช่าในสิงคโปร์และมาเลเซีย
- รางวัล
- ปีของการบันทึกคะแนนและการรับรู้ของผู้ชม
โดย 10 อันดับแรกจากละคร 100 เรื่อง ของละครยอดนิยมสุดคลาสสิกแห่งศตวรรษที่ 20 ทั้งในสิงคโปร์และมาเลเซีย ส่วนใหญ่จะเป็นละครยอดนิยมจากทางฝั่งเกาะฮ่องกง ของค่ายทีวีบี ส่วนค่ายเอทีวี (อาร์ทีวี) มีสองเรื่องที่ติดสิบอันดับแรกในสิงคโปร์ และละครจากจีนแผ่นดินใหญ่ เรื่อง สามก๊ก 1994 สามารถติดสิบอันดับแรกทั้งในสิงคโปร์ และ มาเลเซีย
ส่วนละครยอดนิยมของทีวีบี ที่มีเรตติงและยอดจำนวน เทปวีดีโอ และ ซีดี สูงสุดในสิบอันดับแรกของทั้งสองประเทศ (สิงค์โปร์และมาเลเซีย) ได้แก่ มังกรหยก ภาค 1 (1983) (The Legend of conder heroes 1983), เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (The Bund 1980), เจ้าพ่อตลาดหุ้น (The Greed of Man 1992), เทพบุตรชาวดิน (The Good, the Bad and the Ugly 1979), คู่ทรนง (The Feud of Two Brothers 1986) และ คมเฉือนคม ภาค 1 (The Shell Game 1980)
ต่อไปนี้คือตารางสิบอันดับแรกทั้งใน สิงคโปร์ และ มาเลเซีย
สิงคโปร์
มาเลเซีย
Remove ads
สิบละครฮ่องกงในศตวรรษ 20 ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดในสหรัฐอเมริกา
สรุป
มุมมอง
เป็นละครฮิตในศตวรรษที่ 20 คือ ยุค 70,80 และ 90 ที่สามารถทำยอดผู้ชม (ดูสด) ในระดับเหรียญทอง, เหรียญเงิน และ เหรียญทองแดง ในย่านชุมชนชาวจีนในสหรัฐอเมริกา[38][39] จากเทศกาลงาน "นิวยอร์กฟิล์มเฟสติวัล"
- รางวัลเหรียญทอง มียอดผู้ชมดูสดเฉลี่ย 50% ขึ้นไปของจำนวนประชากรจีนที่อาศัยในสหรัฐ (ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนประชากรไม่เท่ากัน)
- รางวัลเหรียญเงิน มียอดผู้ชมดูสดเฉลี่ยตั้งแต่ 40% ขึ้นไปของจำนวนประชากรจีนที่อาศัยในสหรัฐ (ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนประชากรไม่เท่ากัน)
- รางวัลเหรียญทองแดง มียอดผู้ชมดูสดเฉลี่ยตั้งแต่ 30% ขึ้นไป ของจำนวนประชากรจีนที่อาศัยในสหรัฐ (ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนประชากรไม่เท่ากัน)
ดังนั้นในยุคนั้น จะมีละครฮ่องกงของทั้ง ทีวีบี และ เอทีวี จำนวนมากที่ในตอนออกอากาศครั้งแรกมียอดผู้ชมชาวจีนดูสดที่อาศัยในสหรัฐอเมริกาโดยเฉลี่ยไม่ถึง 30% เช่น เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้, คู่แค้นสายโลหิต, เจ้าพ่อตลาดหุ้น, มังกรหยกภาค2 (1983-1995) เวอร์ชัน หลิวเต๋อหัว-กู่เทียนเล่อ, ดาบมังกรหยก (1986-2000), 8 เทพอสูรมังกรฟ้า (1982-1997), ไซอิ๋ว 1995, ชอลิ้วเฮียง (1979-1984), กระบี่ไร้เทียมทาน , ศึกสองนางพญา, ซูสีไทเฮา 1983. จิ๋นซีฮ่องเต้ และอีกมากมายหลายเรื่อง ซึ่งละครเหล่านี้ไม่ได้รับเหรียญรางวัลยอดผู้ชม ในย่านชุมชนชาวจีนในสหรัฐอเมริกา ใด ๆ ทั้งสิ้น
ตั้งแต่ปีค.ศ. 1976-1999 มีละครเพียง 10 เรื่องเท่านั้นที่ได้รับรางวัลยอดผู้ชมระดับเหรียญทอง, เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง
ต่อไปนี้คือสิบอันดับละครฮ่องกงที่มียอดผู้ชมดูสดเฉลี่ย ตั้งแต่ 30% ถึง 50 % ขึ้นไปจากจำนวนประชากรจีนในย่านชุมชนชาวจีนของในแต่ละปีในสหรัฐอเมริกา
- หมายเหตุ ตั้งแต่ยุค 2000 เป็นต้นมาไม่มีละครฮ่องกงเรื่องไหนสามารถทำยอดผู้ชมดูสดหน้าทีวี เฉลี่ยทุกตอนได้ถึง 30% ขึ้นไปจากจำนวนประชากรจีนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีของย่านชุมชนชาวจีนในสหรัฐอเมริกาได้อีกเลย
Remove ads
ละครฮ่องกงในศตวรรษ 20 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินเดีย
สรุป
มุมมอง
Home TV เป็นอดีตช่องโทรทัศน์บันเทิงทั่วไปภาษาฮินดียอดนิยมในอินเดีย-ปากีสถาน ออกอากาศละครจีนแนวกำลังภายในของฮ่องกงพากษ์ภาษาฮินดี ในช่วงปีค.ศ. 1996-1999 ก่อนจะยุติการออกอากาศด้วยเหตุผลบางประการ
ช่องดังกล่าวสามารถใช้ได้โดยผู้ให้บริการเคเบิลในเดลี, มุมไบ และเมืองรถไฟใต้ดินอื่น ๆ ในยุค 90 ช่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากทางช่องมีรายการแสดงมายากล, การ์ตูน, ตลก, และละครจีนแนวกำลังภายใน ในภาษาฮินดี ให้ดู
ต่อไปนี้คือ ละครชุดแนวกำลังภายในยุค 80-90 ที่อดีตเคยฮิตถล่มทลายในอินเดีย
Remove ads
สิบอันดับละครฮ่องกงที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดในอินโดนีเซียและเวียดนาม
สรุป
มุมมอง
ทั้งสองประเทศเป็นเรตติ้งเฉลี่ยของละครทางฝั่งฮ่องกง (ไม่รวมเรตติ้งละครของทางฝ้งไต้หวัน, จีน และ เกาหลี) ดังนั้น ละครฮิตอย่าง เปาบุ้นจิ้น 1993-1994, องค์หญิงกำมะลอ, ชอลิ้วเอียง 1995 (เวอร์ชันไต้หวัน), รักใสใส หัวใจสี่ดวง, มนต์รักในสายฝน และ นางพญางูขาว (เวอร์ชัน จ้าวหย่าจือ) จะไม่รวมอยู่ในรายชื่อ
สิบละครฮ่องกงที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดในอินโดนีเซีย
สิบละครฮ่องกงที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดในเวียดนาม
Remove ads
สิบอันดับละครฮ่องกงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในแอฟริกา
สรุป
มุมมอง
ทีวีบี บุกตีตลาดผู้ชมในแอฟริกา ได้สำเร็จมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2014 มาจนถึงปัจจุบัน
การส่งเสริม "วัฒนธรรมจีน" ผ่านละครชุดฮ่องกงได้ก้าวสู่ระดับโลกและส่งเสริมความผูกพันระหว่างประชาชนชาวจีนและชาวแอฟริกันผ่านการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ชุดของฮ่องกงได้ออกอากาศไปในแอฟริกา มานานกว่าสิบปีตั้งแต่ปีค.ศ. 2014 จนถึงปัจจุบัน โดยทุกเรื่องได้รับการแปลในหลายภาษาที่ผู้ชมชาวแอฟริกันคุ้นเคย
ต่อมาก็ได้ออกอากาศในกว่า 30 ประเทศของภูมิภาคในแอฟริกา รวมถึงแอฟริกาใต้ เคนยา และ ไนจีเรีย ผ่านทางแพลตฟอร์มโทรทัศน์ดิจิทัลและทางสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของแอฟริกาบางแห่ง และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ประชากรชาวแอฟริกัน
ต่อไปนี้คือ สิบละครฮ่องกงยอดนิยมที่เคยฮิตถล่มทลายทางด้านเรตติ้งในแอฟริกา โดยในสิบเรื่องยอดนิยม 9 เรื่องเป็นละครชุดของทีวีบี และอีก 1 เรื่องเป็นละครชุดของเอทีวี
สิบอันดับละครฮ่องกงที่มีเรตติ้งสูงสุดในไทย
สรุป
มุมมอง
- เป็นการค้นหาและนำสถิติในช่วงยุคทองของทีวี จากนิตยสารเก่า ๆ ในไทย เท่าที่หาได้มาเรียงตามลำดับเรตติ้งสูงสุดตอนจบ (ไม่ใช่เรตตื้งเฉลี่ย) ที่อดีตครั้งแรกของการออกอากาศเคยสร้างปรากฎการณ์ในไทย โดยเป็นเปอร์เซนต์(%) สูงสุดของกำลังผู้ชมทั่วประเทศที่สามารถดูโทรทัศน์ได้ในขณะนั้น (ไม่นับบ้านที่ไม่มีทีวีดู)
- เรตติ้งเฉลี่ยทุกตอนของละครฮ่องกงในไทย ต้องใช้เวลาในการหาเพราะเป็นข้อมูลจากหนังสือเก่า ถ้าเจอจะทยอยนำมาลง
- ข้อมูลที่มีอยู่ เป็นสิบอันดับแรกของเรตติ้งสูงสุด(ตอนจบ)ของละครฮ่องกง ที่อดีต(ตอนออกฉายทางทีวีครั้งแรก)เคยสร้างปรากฎการณ์ในเมืองไทย
- ในอดีตค่านิยมการดูละครของคนไทยรุ่นหนึ่ง คือ
"ถ้าดูละครไทย ให้ดูช่อง 7 (เรตติ้งละครไทยหลังข่าวภาคค่ำช่อง 7 จะสูงกว่าช่อง 3) แต่ถ้าดูละครชุดฮ่องกง ให้ไปดูช่อง 3" (เรตติ้งละครฮ่องกงยุคทีวีบีรุ่งเรืองของช่อง 3 จะสูงกว่าของช่อง 7 ที่ส่วนใหญ่มักนิยมนำละครช่องเอทีวี มาแข่ง)
ในยุคทองละครฮ่องกง เมืองไทยนำเข้ามาแข่งขันทั้งช่อง 3,5,7,9
โดยช่องที่ผู้คน(ส่วนใหญ่)ในเมืองไทยนิยมดูละครชุดจีนฮ่องกงมากที่สุดคือ ช่อง 3 รองลงมาคือช่อง 7
ในช่วงแรก ๆ ที่มีการนำเข้าละครชุดทางฮ่องกง ทางช่อง 3 และ 7 มีการนำละครชุดของทั้งทางค่ายอาร์ทีวี(เอทีวี) และค่ายทีวีบี มาแข่งขันกัน แต่ช่อง 3 จะได้ละครฮิตของทั้งทางค่ายอาร์ทีวี และ ทีวีบี มาออกอากาศมากกว่า
ในยุคที่ละครชุดของทีวีบี รุ่งเรืองสุดขีดไปทั่วประเทศต่าง ๆ ทั้งใน ไต้หวัน,สิงค์โปร์,มาเลเซีย,จีนแผ่นดินใหญ่,เวียดนาม, อินโดนีเซีย และย่านชุมชนชาวจีนในอเมริกาและแคนาดา รวมถืงใน อังกฤษและยุโรป ทางช่อง 3 เองก็มักนิยมนำละครชุดของทีวีบีเอามาออกอากาศแข่งกับทางช่อง 7 ที่ (ส่วนใหญ่) มักนำละครชุดของเอทีวี(ช่องที่มีเรตติ้งอันดับสองในฮ่องกง) มาแข่งขัน
ข่อง 7 ช่วงแรก ๆ ก็มีละครของช่องทีวีบี มาออกอากาศหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่พอเวลาผ่านไป กลายเป็นว่าช่อง 7 กลับมีละครของทางช่องเอทีวี มาออกอากาศมากกว่า
ช่อง 3 ช่วงแรกนำเข้าละครทางค่ายอาร์ทีวี มากกว่า ค่ายทีวีบี แต่พอตั้งแต่ปีพ.ศ. 2525 (1982) กลับนำละครฮิตของค่ายทีวีบี มาออกอากาศมากกว่า ละครของทางค่ายอาร์ทีวี(เอทีวี)
ในข่วงที่ช่อง 3 นำละครชุดของค่ายอาร์ทีวี(เอทีวี) มาออกอากาศ เช่น กระบี่ไร้เทียมทาน ที่อดีตเคยออกอากาศครั้งแรกทางช่อง 3 แล้วโด่งดังเป็นพลุแตกทั่วประเทศ แต่หลังจากนั้นทางช่อง 3 ก็ค่อย ๆ นำเข้าละครเอทีวีน้อยกว่าละครชุดของทีวีบี
มีละครฮ่องกงที่ฮิตมากมายหลายเรื่องในเมืองไทย แต่ทว่าในหลายเรื่องนั้น ตอนอวสานกลับได้เรตติ้งตอนจบไม่สูง
ต่อไปนี้คือละครที่ได้ เรตติ้ง % ตอนจบสูงสุด (ตอนออกอากาศครั้งแรก)
หมายเหตุ (ช่อง 3 มีละครสุดฮิตจากประเทศอื่นด้วย เช่น ไต้หวัน และ เกาหลี)
ละครฮิตของไต้หวัน (ไม่ใช่ละครทางฝั่งฮ่องกง) ที่ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง 3 แล้วในอดีตเคยโด่งดังสุดขีดในไทย เช่น
- เปาบุ้นจิ้น 1993 (Justice Pao 1993) ตอน ประหารราชบุตรเขย ที่มีเรตติ้งตอนจบ 90%
- องค์หญิงกำมะลอ ภาคแรก ที่มีเรตติ้งตอนจบ 85%
- รักใสใส หัวใจสี่ดวง นำแสดงโดย วงบอยแบนด์เอฟโฟร์(F4) จากไต้หวัน ที่มีเรตติ้งตอนจบ 80%
ทั้งสามเรื่องในอดีตได้สร้างปรากฎการณ์ เปาบุ้นจิ้นฟีเวอร์, องค์หญิงกำมะลอฟีเวอร์ และ เอฟโฟร์(F4)ฟีเวอร์ ในเมืองไทย อยู่พักใหญ่
ละครสุดฮิตจากเกาหลี ที่ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง 3 แล้วสร้างปรากฎการณ์สุดฮิตในไทย
- แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง 3 ในอดีตเคยฮิตถล่มทลายทั่วประเทศจนเกิดปลุกกระแสคลั่งไคล้วัฒนธรรมเกาหลีในเมืองไทยนับตั้งแต่นั้นจนมาถึงปัจจุบัน
สิบอันดับละคร(ต่างประเทศ)ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดในฮ่องกง
สรุป
มุมมอง
10 อันดับละครชุดต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเกาะฮ่องกง เป็นเรตติ้งแยกจากละครชุดของฮ่องกงเอง (บางเรื่องเป็นการสร้างร่วมกันของทางทีวีบีกับไต้หวัน)
ละครของต่างประเทศที่มีเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนมากที่สุดในฮ่องกง คือ สงครามชีวิตโอชิน (Oshin 1983) ละครยอดนิยมของญี่ปุ่น ที่สร้างสถิติเป็นละครเรื่องเดียวที่มีการออกอากาศสองครั้งในปีเดียวกันผ่านทางช่องเดียวกันในฮ่องกง (แต่คนละช่วงเวลา)
โดยในปีพ.ศ. 2527 (1984) ทางช่องทีวีบี ได้นำละครเรื่องนี้มาออกอากาศครั้งแรกครึ่งชั่วโมงของทุกวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลาบ่ายโดยเน้นฐานผู้ชมที่เป็นแม่บ้านเป็นหลัก (ส่วนคนทำงานประจำไม่มีโอกาสดูในช่วงเวลานั้น) แต่เมื่อละครถูกพูดถึงจากเหล่าบรรดาแม่บ้านเป็นอย่างมาก ต่อมาทาง ทีวีบี ได้ตัดสินใจนำมาออกอากาศใหม่อีกครั้งในปีเดียวกันทันที ในช่วงหลังเลิกงานซึ่งเป็นเวลาที่มีผู้ชมหลากหลายได้มีโอกาสดูมัน ทำให้ละครเรื่องนี้ฮิต จนเกิดกระแส "โอชินฟีเวอร์" ขึ้นมาในฮ่องกง และสามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยได้ 42 จุดเปิดต่อตอน จากความนิยมทำให้ในปีอื่น ๆ มีการออกอากาศรีรันซ้ำละครเรื่องนี้ในฮ่องกงถึง 5 ครั้งเลยทีเดียว
ส่วนละครของต่างประเทศที่มีเรตติ้งสูงสุดในเกาะฮ่องกง คือ แดจังกึม ซีรีส์ยอดนิยมของเกาหลี ที่สามารถตีตลาดคนดูละครในฮ่องกงได้ ถึงแม้จะมียอดคนดูเฉลี่ยทุกตอนในฮ่องกง เพียง 2.35 ล้านคน และมีเรตติ้งตอนจบอยู่ที่ 47 จุดเปิด แต่สามารถทำเรตติ้งสูงสุด 50 จุดเปิด เท่ากับ 3.35 ล้านคน นับเป็นละคร(ยุคหลัง)ที่สามารถทำเรตติ้งสูงสุดในเกาะฮ่องกงในรอบ 25 ปี(ละครในช่วงปีค.ศ. 1991-2016) นับรวมเฉพาะละครของฮ่องกงตั้งแต่ยุค 90s มาจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่สูงเท่าเรตติ้งสูงสุดของละครยอดนิยมในยุค 80 อย่าง มังกรหยก ภาค 1 (1983) [40]
เรตติ้งละครทีวีบียุค 70-80 (ยุคทอง) ในฮ่องกง
สรุป
มุมมอง
นอกเหนือจาก 10 ละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยในฮ่องกงสูงสุดตลอดกาล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นละครในช่วงปลายยุค 70s-80s (ค.ศ. 1977-1989) เช่น มังกรหยก (1983) ภาคก๊วยเจ๋งและเอี้ยก้วย, เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (1980), เทพบุตรชาวดิน (1979), เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ (1984), ดาบมังกรหยก (1978), ซิยิ่นกุ้ย พิชิตตะวันออก (1985) ซึ่งล้วนทำเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอน 60 จุดเปิดขึ้นไปได้สำเร็จ ถือเป็นช่วงยุคทองของละครในฮ่องกง แต่ก็มีละครในยุคนั้นอีกจำนวนมากที่ถึงแม้จะประสบความสำเร็จเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยได้ถึง 60 จุดเปิด
ต่อไปนี้คือเรตติ้งของละครเรื่องอื่น ๆ (เพียงบางส่วน) จากประมาณมากกว่า 200 เรื่องของละครทั้งหมดในยุค 70s-80s
เรตติ้งละครทีวีบียุค 90 (ยุคเงิน) ในฮ่องกง
สรุป
มุมมอง
ยุค 90s ช่วงต้น-กลาง (1990-1996) เป็นยุคทองของภาพยนตร์ฮ่องกง(จอเงิน) และเริ่มเข้าสู่ยุคที่เรตติ้งของละคร(จอแก้ว)ในฮ่องกง เริ่มลดลงและต่ำลงไปเรื่อย ๆ จนมาถึงปัจจุบัน
โดยมีแบ่งการวัดเรตติ้ง ออกเป็น 2 ช่วงดังนี้:-
1. "ช่วงแรก ปีค.ศ. 1991-2012"
- วัดเรตติ้งจากจุดชมวิว 100 จุดทั่วเกาะฮ่องกง
2."ช่วงหลัง ปีค.ศ. 2013-ปัจจุบัน"
- เข้าสู่ยุค"แพลตฟอร์ม" (Platform) ในโลกอินเทอร์เน็ต จึงมีการวัดเรตติ้งแบบใหม่ให้ทันยุคสมัย โดยยังคงวัดจากจุดชมวิวแบบยุค 90s เป็นหลัก แต่มีการหาเรตติ้งที่ครอบคลุมพื้นที่การดูสดผ่านทางทีวีและออนไลน์ เช่น พวกแพตฟอร์มที่ขึ้นตรงกับทางทีวีบี นำมาคำนวณหาเรตติ้งแท้จริงร่วมกับเรตติ้งที่ดูหน้าจอทีวี ซึ่งจะทำให้ได้ยอดคนดูสดทางออนไลน์รวมกับยอดคนดูสดทางหน้าจอทีวีในยุคปัจจุบัน(ไม่ใช่การดูย้อนหลัง)
ต่อไปนี้คือตารางรวมเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนสูงสุดในแต่ละปีของละครยุค 90s - ปัจจุบัน หลังจากหมดยุค 80s ผู้ชมในเกาะฮ่องกงยุค 90s พฤติกรรมการดูละครเริ่มเปลี่ยน จึงทำให้เรตติ้งค่าเฉลี่ย และเรตติ้งสูงสุดน้อยลงจากยุคก่อน โดยยุคหลังละครแต่ละเรื่องเรตติ้งเฉลี่ยได้ไม่เกิน 45 จุดเปิด ส่วนเรตติ้งสูงสุดได้ไม่เกิน 50 จุดเปิดเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับเรตติ้งของละครยอดนิยมในช่วงยุค 80s
ส่วนเรตติ้งละครในยุค 70s-80s ที่มีเรตติ้งค่าเฉลี่ยต่อตอนเกิน 45 จุดเปิดมีหลายเรื่อง เช่น
1.มังกรหยกภาค 1 เวอร์ชัน 1983 มีเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอน 65 จุดเปิด
2. มังกรหยก ภาค 2 เวอร์ชัน 1983 เรตติ้งเฉลี่ยต่อตอน 62 จุดเปิด
3. เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ มีเรตติเฉลี่ยต่อตอน 60 จุดเปิด เป็นต้น
ซึ่งละครยุคเก่าทั้งสามเรื่องต่างมีคะแนนเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนสูงกว่าเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนของละครในยุค 90s จนถึงปัจจุบันทั้งหมด
ต่อไปนี้คือตารางเรตติ้งเฉลี่ยและเรตติ้งสูงสุดของละครทีวีบีในยุค 90s - ปัจจุบันคร่าวๆ โดยจะแยกตารางเรตติ้งออกเป็นของแต่ละปีที่ทำเรตติ้งได้สูงสุดของปีนั้น ๆ โดยหลัก ๆ ให้ดูค่าตัวเลขที่ค่าเรตติ้งเฉลี่ย ก่อนเพราะเป็นหัวใจหลักในการจัดอันดับ ถึงค่อยมาดูค่าเรตติ้งสูงสุด และอื่น ๆ ตามลำดับซึ่งมีความสำคัญรองลงมา[41][42][43][44]
ปีค.ศ. 1990
สามอันดับแรกละครที่มีคะแนนเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2533 (1990)
ปีค.ศ. 1991
สามอันดับแรกละครที่มีจุดเปิดเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2534 (1991)
ปีค.ศ. 1992
สี่อันดับแรกละครที่มีคะแนนเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2535 (1992)
ปีค.ศ. 1993
หกอันดับแรกละครที่มีจุดเปิดเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2536 (1993)
ปีค.ศ. 1994
สิบสองอันดับแรกละครที่มีจุดเปิดเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2537 (1994)
ปีค.ศ. 1995
สิบเอ็ดอันดับแรกละครที่มีจุดเปิดรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2538 (1995)
ปีค.ศ. 1996
สิบเอ็ดอันดับแรกละครที่มีจุดเปิดเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2539 (1996)
ปีค.ศ. 1997
สิบเจ็ดอันดับแรกละครที่มีจุดเปิดเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2540 (1997)
ปีค.ศ. 1998
สิบเก้าอันดับแรกละครที่มีจุดเปิดเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2541 (1998)
ปีค.ศ. 1999
ยี่สิบเอ็ดอันดับแรกละครที่มีจุดเปิดเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีพ.ศ. 2542 (1999)
เรตติ้งยุค2000-ปัจจุบัน (ในฮ่องกง)
สรุป
มุมมอง
รวม 10 อันดับแรกช่วงยุค 2000 ของละครทีวีบีที่มีเรตติ้งเฉลี่ยผู้ชมสูงสุด ในช่วงสิบปี (พ.ศ. 2543-2552)
- เป็นสิบอันดับแรกช่วง 10 ปีของละครที่สามารถทำเรตติ้งยอดนิยมเฉลี่ยสูงสุดของยุค 2000 (ค.ศ. 2000-2009 หรือ พ.ศ. 2543-2552)
ยุค2010 (รวมเรตติ้งแพลตฟอร์ม)
เป็นยุคแรกที่มีการหาเรตติ้งข้าม"แพลตฟอร์ม" ในโลกอินเทอร์เน็ต จึงมีการวัดเรตติ้งแบบใหม่ให้ทันยุคสมัย มีการวัดเรตติ้งจำนวนผู้ชมข้ามแพลตฟอร์มโดยเฉลี่ยทั้งหมด ทั้งทางช่อง ทีวีบี เจด (TVB Jade Channel และ มายทีวี ซุปเปอร์ (myTV SUPER 7-day cross) โดยวัดสถิติผู้ชมรวมแพลตฟอร์มใน 7 วัน
ต่อไปนี้คือ 10 อันดับแรกช่วงยุค 2010 ของละครทีวีบีที่มีเรตติ้งเฉลี่ยผู้ชมสูงสุด ในช่วงสิบปี (พ.ศ. 2553-2562)
- เป็นสิบอันดับแรกช่วง 10 ปีของละครที่สามารถทำเรตติ้งยอดนิยมเฉลี่ยสูงสุดของยุค 2010 (ค.ศ. 2010-2019 หรือ พ.ศ. 2553-2562)
รายการต่อไปนี้แสดงรายการละครชุดทีวีฮ่องกงของทีวีบี 10 อันดับแรกที่มีคะแนนเฉลี่ยทางทีวี/แบบครอบคลุม/24 ชั่วโมงข้ามแพลตฟอร์มสูงสุด 7 วันในยุค 2010 ยุคนี้สื่ออินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อผู้ชม จึงได้เริ่มมีการแยกวัดเรตติ้งการดูละครถ่ายทอดสดผ่านทางออนไลน์ขึ้นมาอีกด้วย
ยุค 2020
ยุคปัจจุบัน นับตั้งแต่พ.ศ. 2563-2572 (2020-2029)
ปีค.ศ. 2020
10 อันดับละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนสูงสุดของปีพ.ศ. 2563 (2020)
ปีค.ศ. 2021
ต่อไปนี้คือตาราง 10 อันดับละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนสูงสุดของปีพ.ศ. 2564 (2021)
ปีค.ศ. 2022
ต่อไปนี้คือตาราง 10 อันดับละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนสูงสุดของปีพ.ศ. 2565 (2022) [45]:
อันดับ | ชื่อละคร | จุดดูสด(เฉลี่ยต่อตอน) | สัปดาห์แรก | ตอนจบ | เรตติ้งสูงสุด |
1 | รอยแค้นไฟริษยา(Modern Dynasty) | 24.7 | 22.9 | 26.3 | 28.6 |
2 | ฉู่ฉู่ มือชันสูตรฟ้าประทาน (The Imperial Coroner ) | 23 | 23.1 | 23.1 | 24.4 |
3 | ครอบครัวป่วน ก๊วนอลเวง (Get on a Flat ) | 22.5 | 21.6 | 23.5 | 27.3 |
4 | พยัคฆ์ร้ายไชน่าทาวน์ ( THE RIGHTEOUS FISTS ) | 21.8 | 20.9 | 22.8 | 27.1 |
5 | เรื่องเล่าคนกลับบ้าน (Come Home Love: Lo And Behold ) | 21.7 | |||
6 | ปริศนาลับ สัมผัสพิศวง ( USED GOOD ) | 21.6 | 19 | 25.5 | 27.6 |
7 | 'หน่วยล่าพยัคฆ์เดือด ภาค 3 ( FLYING TIGER 3 ) | 21.5 | 22.4 | 21 | 22.4 |
8 | เส้นทางซุปตาร์(วัยเก๋า) FREEDOM MEMORIES | 20.5 | 21.1 | 18.4 | 21.1 |
9 | หน่วยเฉพาะกิจพลิกคดีเด็ด ภาค 5 ( FORENSIC HEROES V ) | 19.75 | 20.4 | 19.7 | 20.4 |
10 | องค์ชายจอมเปิ่นกับองค์หญิงจอมโหด (YOUR HIGHNESS) | 19.2 | 18.8 | 19.7 | 21.2 |
ปึค.ศ. 2023
ต่อไปนี้คือตาราง 10 อันดับละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนสูงสุดของปีพ.ศ. 2566 (2023)[46]
อันดับ | ชื่อเรื่อง | จุดรับชมครอบคลุมโดยเฉลี่ย | จุดรับชมสด (ข้ามแพลตฟอร์ม) | จุดรับชมสด(ทางโทรทัศน์) | เรตติ้งสัปดาห์แรก | เรตติ้งตอนจบ | เรตติ้งสูงสุด |
1 | กลยุทธ์ยอดนักข่าว( THE QUEEN OF NEWS) | 26.9 | 23.5 | 22.9 | 22.6 | 23 | 25.2 |
2 | ทีมปราบทรชนไร้เงา ( THE INVISIBLES ) | 25.5 | 22.4 | 22 | 21.5 | 23.4 | 26.9 |
3 | ปมแค้นราชายาเสพติด ( NARCOTICS HEROES ) | 24.7 | 22.2 | 21.55 | 19.8 | 23.2 | 28 |
4 | ภูตรักเพลงงิ้ว (UNCHAINED MEDLEY) | 22.1 | 19.9 | 19.4 | 19.2 | 20.1 | 23.8 |
5 | สยบหัวใจนายบอดี้การ์ด (A Perfect Man) | 22.1 | 19.9 | 18.4 | 20.4 | 22.6 | |
6 | มิติปริศนา คัมภีร์ 42 บท ( TREASURE OF DESTINY) | 22.1 | 20.2 | 19.68 | 19.9 | 20.4 | 23.0 |
7 | ประตูลับ ซ่อนปมมรณะ (SECRET DOOR) | 21.8 | 20.0 | 19.4 | 18.8 | 19.8 | 22.3 |
8 | ตำรารักแพทย์แผนจีน( LET ME TAKE YOUR PULSE) | 21.7 | 20.1 | 19.38 | 20.3 | 20.6 | 22.9 |
9 | ภารกิจล่าพยัคฆ์ (mission run) | 21.3 | 18.5 | 18.5 | 22.2 | ||
10 | นางฟ้าราตรี ( NIGHT BEAUTIES ) | 21.6 | 18.2 | 20.3 | 21.7 | ||
ปึค.ศ. 2024
ต่อไปนี้คือตาราง 10 อันดับละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนสูงสุดของปีพ.ศ. 2567 (2024)
อันดับ | ชื่อละคร | จุดรับชมถ่ายทอดสด (TV) | สัปดาห์แรก | ตอนจบ | เรตติ้งสูงสุด" |
1 | ทายาทสู่บัลลังก์ (The Heir to the Throne ) | 21.7 | 21.9 | 22.9 | 25.5* |
2 | กองปราบพิฆาตมาเฟีย (NO ROOM FOR CRIME) | 21.4 | 20.9 | 22 | 24.3* |
3 | แอร์พอร์ตไดอารี่ (THE AIRPORT DIARY) | 21.2 | 20.8 | 21.5 | 23.6* |
4 | หน่วยเฉพาะกิจพลิกคดีเด็ด ภาค6 (Forensic Heroes VI: Redemption | 20.4 | 20 | 19.9 | 25.6* |
5 | พลิกเกมล่าอาชญากร ภาค2 (SINISTER BEINGS II) | 19.8 | 18.4 | 21.6 | 23.9* |
6 | ท้าฝันเส้นทางธุรกิจ (BIG BIZ DUEL) | 19.72 | 18.8 | 20.7 | 23.2* |
7 | ICAC องค์กรปราบคอรัปชั่น (ICAC Investigators 2024) | 17.9 | 17.9 | 17.9 | 21.4* |
8 | คนแปลกหน้า ที่คุ้นเคย (In Bed With A Stranger) | 17.4 | 17.2 | 17.8 | 20* |
9 | คนป่วน เซียนตกสวรรค์ (A FALLEN XIAN) | 16.8 | 17.1 | 18.0 | 20.9* |
10 | ตำรับลับตำนานสะท้านฟ้า ( HAPPY EVER AFTER | 16.3 | 19.1* | ||
สิบตัวละครทีวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (The 10 Greatest TV Characters)
ปีพ.ศ. 2550 (2007) ที่ฮ่องกงได้มีการจัดอันดับ 100 นักแสดงที่สวมบทบาทตัวละครทีวีอันยอดเยี่ยม (The 100 Greatest TV Characters) รวมทั้งช่องทีวีบี, อาร์ทีวี(เอทีวี) และเจียซื่อ โดย 10 อันดับแรกได้แก่
อันดับ | ชื่อนักแสดง | บทบาทการแสดงอันยอดเยี่ยม | จากละครเรื่อง | หมายเหตุ| |
1 | 'เจิ้งเส้าชิว | ติงไห่ | เจ้าพ่อตลาดหุ้น (1992) | |
2 | โจวเหวินฟะ | สวี่เหวินเฉียง | เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (1980) | |
3 | เลี่ยวเหว่ยสง | อาฉ่าง | เทพบุตรชาวดิน (1979) | |
4 | เฉินอวี้เหลียน | เซียวเหล่งนึ่ง | มังกรหยก 2 (1983) | เป็นการแสดงบทเซียวเหล่งนึ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด |
5 | เจิ้งเส้าชิว | ชอลิ้วเฮียง | ชอลิ้วเฮียง (1979) | เป็นการแสดงบทชอลิ้วเฮี้ยงที่ยอดเยี่ยมที่สุด |
6 | เติ้งไป่หยุน | แม่ใหญ่ | อ้อมอกแม่ (Season) | |
7 | เหลียงเฉาเหว่ย | จางเหว่ยเจ๋ย | ขวัญใจโปลิส (1984-1989) | |
8 | โจวซิงฉือ | เหอซินเหมี่ยว | นรกแตก (The Justice of Life 1989) | |
9 | หลิวเต๋อหัว | เอี้ยก๊วย | มังกรหยก ภาค2 (1983) | เป็นการแสดงบทเอี้ยก๊วยที่ยอดเยี่ยมที่สุด |
10 | องเหม่ยหลิง | อึ้งย้ง | มังกรหยก ภาค1 (1983) | เป็นการแสดงบทอึ้งย้งที่ยอดเยี่ยมที่สุด |
บทซ้ำกัน มีดังนี้
- หมีเซียะ ได้อันดับที่ 45 จากบท อึ้งย้ง
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads