คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
โยโกฮามะ
นครและเมืองหลวงของจังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
โยโกฮามะ (ญี่ปุ่น: 横浜; โรมาจิ: Yokohama) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองเรียงตามจำนวนประชากรของประเทศญี่ปุ่นรองจากโตเกียว เป็นเทศบาลที่มีประชากรมากที่สุดของญี่ปุ่น เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของจังหวัดคานางาวะ ด้วยจำนวนประชากรเมื่อ ค.ศ. 2020 ราว 3.8 ล้านคน โยโกฮามะตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวโตเกียว ทางใต้ของโตเกียว ในภูมิภาคคันโตบนเกาะหลักฮนชู โยโกฮามะยังเป็นศูนย์กลางทางพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมที่สำคัญของเขตมหานครโตเกียวและปริมณฑล
Remove ads
ประวัติศาสตร์
สรุป
มุมมอง
การเปิดท่าเรือตามสนธิสัญญา (ค.ศ. 1859–1868)

โยโกฮามะเดิมเป็นหมู่บ้านประมงขนาดเล็ก จากนโยบายปิดประเทศของญี่ปุ่นทำให้มีการติดต่อกับชาวต่างชาติเพียงน้อยนิด[1] จุดเปลี่ยนผ่านสำคัญเกิดขึ้นระหว่างปี 1853–54 เมื่อกองเรือปืนของสหรัฐอเมริกานำโดย พลเรือจัตวา แมทธิว ซี. เพอร์รี เดินทางมาถึงทางใต้ของโยโกฮามะ ได้กดดันให้รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะซึ่งปกครองญี่ปุ่นอยู่ในขณะนั้นยอมลงนามในสนธิสัญญาคานางาวะ ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นต้องเปิดท่าเรือหลายแห่งเพื่อการค้าขาย[2]
ข้อตกลงในขั้นต้นคือ จะต้องมีท่าเรือหนึ่งแห่งสำหรับเรือต่างชาติเปิดขึ้นที่คานางาวาจูกุ (ปัจจุบันคือเขตคานางาวะ) บนถนนสายโทไกโด ซึ่งเป็นเส้นทางหลักซึ่งเชื่อมระหว่างเอโดะ เกียวโต และโอซากะ อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลโชกุนติดสินใจว่าคานางาวาจูกุนั้นอยู่ใกล้กับโทไกโดมากเกินไป เพื่อความสะดวกจึงหันไปสร้างท่าเรือพาณิชย์ขึ้นบริเวณหมู่บ้านชาวประมงโยโกฮามะแทน ในที่สุดท่าเรือโยโกฮามะก็เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 มิถุนายน 1859[3] การเกิดขึ้นของท่าเรือพาณิชย์ ทำให้โยโกฮามะกลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญของญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว

ในปี 1862 ซามูไรหนุ่มคนหนึ่งได้ไปสังหารพ่อค้าชาวอังกฤษในเขตสึรูมิเข้าจนเกิดเป็นกรณีนามามูงิ ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับรัฐบาลโชกุนนั้นตึงเครียด และทางอังกฤษได้จัดตั้งกองทหารรักษาการณ์ของตนเพื่อปกป้องการค้าและผลประโยชน์ของอังกฤษในโยโกฮามะในปีเดียวกันนั้นเอง ในปีถัดมา ความตึงเครียดก็อุบัติเป็นสงครามอังกฤษ-ซัตสึมะซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเสื่อมอำนาจของโชกุน ในช่วงเดียวกันนี้ จำนวนพ่อค้าชาวจีนที่เข้ามาพำนักอยู่ในโยโกฮามะก็เพิ่มขึ้นจำนวนมาก[4]
โยโกฮามะยังเป็นแหล่งแผยแพร่แฟชั่นและวัฒนธรรมตะวันตกแก่ชาวญี่ปุ่นอีกด้วย ในปี 1861 มีการเกิดขึ้นของหนังสือพิงม์ภาษาอังกฤษในญี่ปุ่นฉบับแรก Japan Herald และในปี 1865 ก็มีการนำไอศรีมและเบียร์เข้ามาผลิตในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก[5] ตลอดจนมีการจัดตั้งสโมสรและสนามแข่งม้าแบบตะวันตกแห่งแรกในญี่ปุ่นในปี 1862 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในโยโกฮามะซึ่งได้ทำลายชุมชนของชาวต่างชาติไปเป็นจำนวนมากในเดือนพฤศจิกายน 1866 หรือตลอดจนการระบาดของไข้ทรพิษ แต่เมืองโยโกฮามะก็ยังเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว
ยุคเมจิและไทโช (ค.ศ. 1868–1923)

ภายหลังการฟื้นฟูพระราชอำนาจในปี 1868 ท่าเรือโยโกฮามะก็ถูกพัฒนาเพื่อการค้าขายผ้าทอโดยมีอังกฤษเป็นคู่ค้าหลัก อิทธิพลและการส่งผ่านเทคโนโลยีของตะวันตกได้ช่วยให้เกิดหนังสือพิมพ์รายวันฉบับแรกของญี่ปุ่น (1870) โคมไฟส่องถนนพลังก๊าซ (1872) และทางรถไฟสายแรกของญี่ปุ่นระหว่างโยโกฮามะ–ชินางาวะ–มินาโตะในโตเกียว (1872) เป็นปีเดียวกันกับที่ ฌูล แวร์น ได้เขียนพรรณาเมืองฮิโรชิมะซึ่งเขาไม่เคยได้ไปเยือนมาก่อน ในตอนหนึ่งของหนังสือของเขา Around the World in Eighty Days ซึ่งสะท้อนถึงเมืองที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นเมืองนานาชาติในดินแดนตะวันออก ในปี 1887 พ่อค้าชาวอังกฤษนาม ซามูเอล ค็อกกิง ได้สร้างโรงไฟฟ้าแห่งแรกของเมืองนี้ ซึ่งในช่วงแรกใช้เพื่อกิจการส่วนตัว โรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งนี้เองที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทไฟฟ้าและแสงสว่างโยโกฮามะ เดือนเมษายน 1889 เมืองโยโกฮามะทั้งสองเขตถูกรวมไปหนึ่งเดียวจากการยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตในเขตต่างชาติ
ต้นศตวรรษที่ 20 เป็นยุคที่อุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการจำนวนมากสร้างโรงงานบนที่ดินถมทะเลบริเวณทางเหนือของเมืองไปจนถึงเมืองคาวาซากิ ซึ่งในที่สุดพื้นที่นี้ก็กลายเป็นเขตอุตสาหกรรมเคฮิง การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้นำมาซึ่งความมั่งคั่ง และครอบครัวพ่อค้าที่ร่ำรวยจำนวนมากก็ได้มาตั้งรกรากที่นี่ ประชากรที่ไหลบ่าเข้ามาจากทั่วญี่ปุ่นและเกาหลีได้ส่งผลให้เกิดโคจิกิยาโตะซึ่งเป็นชุมชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขึ้น
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ. 1923–1945)
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโตวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1923 ได้ทำลายเมืองโยโกฮามะลงอย่างกว้างขวาง ตำรวจโยโกฮามะรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตถึง 30,771 คนและผู้บาดเจ็บอีก 47,908 ราย ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวโยโกฮามะมีประชากรทั้งสิ้น 434,170 คน[6] มีการก่อความไม่สงบและวินาศกรรมขึ้น ผู้ต้องหาส่วนมากเป็นชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในสลัมโคจิกิยาโตะ[7] ขณะนั้น มีคนจำนวนมากที่เชื่อว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่หลวงนี้เกิดขึ้นจากการใช้มนต์ดำโดยชาวเกาหลี จากความไม่สงบที่เกิดขึ้นทำให้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก แผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดซากปรักหักพังมากมาย ซึ่งหลายบริเวณก็ถูกแปรสภาพเป็นสวนสาธารณะ อาทิ สวนสาธารณะยามาชิตะ
แม้เมืองจะได้รับการบูรณะและกลับมายืนหยัดอย่างรวดเร็ว แต่โยโกฮามะก็ถูกทำลายลงอีกครั้งจากการทิ้งระเบิดทางอากาศของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง การทิ้งระเบิดเพลิงในเช้าวันที่ 29 พฤษภาคม 1945 ครั้งเดียวได้คร่าชีวิตผู้คนในโยโกฮามะไปกว่า 7-8 พันคน การทิ้งระเบิดครั้งนั้นเป็นที่รู้จักในชื่อ "การทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ที่โยโกฮามะ" ซึ่งใช้เวลาในการทิ้งระเบิด 1 ชั่วโมง 9 นาที โดยเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-29[8]
Remove ads
การปกครอง

นครโยโกฮามะแบ่งการปกครองออกเป็น 18 เขต ได้แก่
- เขตคานางาวะ (ญี่ปุ่น: 神奈川区; โรมาจิ: Kanagawa-ku)
- เขตคานาซาวะ (ญี่ปุ่น: 金沢区; โรมาจิ: Kanazawa-ku)
- เขตโคโฮกุ (ญี่ปุ่น: 港北区; โรมาจิ: Kōhoku-ku)
- เขตโคนัง (ญี่ปุ่น: 港南区; โรมาจิ: Kōnan-ku)
- เขตซากาเอะ (ญี่ปุ่น: 栄区; โรมาจิ: Sakae-ku)
- เขตเซยะ (ญี่ปุ่น: 瀬谷区; โรมาจิ: Seya-ku)
- เขตทตสึกะ (ญี่ปุ่น: 戸塚区; โรมาจิ: Totsuka-ku)
- เขตนากะ (ญี่ปุ่น: 中区; โรมาจิ: Naka-ku) (ศูนย์กลาง)
- เขตนิชิ (ญี่ปุ่น: 西区; โรมาจิ: Nishi-ku)
- เขตมิโดริ (ญี่ปุ่น: 緑区; โรมาจิ: Midori-ku)
- เขตมินามิ (ญี่ปุ่น: 南区; โรมาจิ: Minami-ku)
- เขตสึซูกิ (ญี่ปุ่น: 都筑区; โรมาจิ: Tsuzuki-ku)
- เขตสึรูมิ (ญี่ปุ่น: 鶴見区; โรมาจิ: Tsurumi-ku)
- เขตอาซาฮิ (ญี่ปุ่น: 旭区; โรมาจิ: Asahi-ku)
- เขตอาโอบะ (ญี่ปุ่น: 青葉区; โรมาจิ: Aoba-ku)
- เขตอิซูมิ (ญี่ปุ่น: 泉区; โรมาจิ: Izumi-ku)
- เขตอิโซโงะ (ญี่ปุ่น: 磯子区; โรมาจิ: Isogo-ku)
- เขตโฮโดงายะ (ญี่ปุ่น: 保土ヶ谷区; โรมาจิ: Hodogaya-ku)
Remove ads
ประชากรแบ่งตามปี
ภูมิอากาศ
Remove ads
สถานที่ท่องเที่ยว
- ศาลาอนุสรณ์ท่าเรือโยโกฮามะ (Yokohama Port Opening Memorial Hall) สร้างด้วยอิฐแดงสวยงาม สถานที่แห่งนี้รอดเงื้อมมือแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1923 และระเบิดของสงครามโลกครั้งที่สองมาได้อย่างมหัศจรรย์ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังเป็นสถานที่ราชการที่สำคัญอีกหลายแห่งรวมทั้งสำนักงานศุลกากรโยโกฮามะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล
- มารีนทาวเวอร์ (Marine Tower) หอคอยสูง 106 เมตร รูปทรงทันสมัยตั้งเด่นตระหง่าน ยามค่ำคืนจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาถ่ายรูปบริเวณนี้
- สวนสาธารณะยามาชิตะ (Yamashita Park) ภายในสวนมีสิ่งน่าดูหลายอย่าง และยามค่ำคืนภายในสวนฤดูที่ท้องฟ้ากระจ่าง อาจได้ยินเสียงเพลงลอยมาไม่ไกลนักจากฝั่ง
- ไชน่าทาวน์หรือชูกาไง (中華街) เป็นถิ่นชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเก่าแก่เกือบพอ ๆ กับย่านท่าเรือ มีอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย ภัตตาคารอาหารมีอยู่ราว 150 ร้าน ร้านจำหน่ายขนมหวานที่นำเข้าจากจีน และสินค้าเบ็ดเตล็ดจากที่อื่น ๆ ในเอเชีย
- พิพิธภัณฑ์ยามาเตะ (Yamate Museum) อยู่ไม่ไกลนักจากสุสาน จัดแสดงวิถีชีวิตชุมชนชาวต่างชาติในยุคแรก ๆ ของที่นี่ได้อย่างแปลกตา และพิพิธภัณฑ์ยังตั้งอยู่ใกล้โรงเบียร์แห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย
Remove ads
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
โยโกฮามะ มีความสัมพันธ์เป็นเมืองพี่น้อง กับ 11 เมืองดังต่อไปนี้:
|
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads