คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ภาษาชวา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ภาษาชวา (ชวา: basa Jawa, ꦧꦱꦗꦮ, بَاسَا جَاوَا, ออกเสียง: [bɔsɔ d͡ʒɔwɔ]) เป็นภาษาของชาวชวาในภาคกลางและภาคตะวันออกของเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีผู้พูดภาษานี้เป็นภาษาแม่มากกว่า 98 ล้านคน[3] (มากกว่าร้อยละ 42 ของประชากรทั้งประเทศ)
ภาษาชวาเป็นภาษาตระกูลออสโตรนีเซียนที่มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาแม่มากที่สุด โดยมีภาษาถิ่นหลายภาษาและมีทำเนียบภาษาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนจำนวนหนึ่ง[4] ญาติที่ใกล้ชิดกับภาษานี้ที่สุดคือภาษาซุนดา, ภาษามาดูรา และภาษาบาหลี ผู้พูดภาษาชวาส่วนใหญ่พูดภาษาอินโดนีเซียในสถานการณ์ทางการและเพื่อการค้า รวมทั้งเพื่อสื่อสารกับชาวอินโดนีเซียที่ไม่พูดภาษาชวา
นอกจากนี้ยังมีผู้พูดภาษาชวาในประเทศมาเลเซีย (โดยเฉพาะแถบชายฝั่งตะวันตกในรัฐเซอลาโงร์และรัฐยะโฮร์) และสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีผู้พูดในชุมชนผู้สืบเชื้อสายชวาในประเทศซูรินาม, ศรีลังกา และนิวแคลิโดเนีย[5]
นอกจากภาษาอินโดนีเซียแล้ว ภาษาชวายังเป็นภาษาทางการในเขตพิเศษยกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย[2]
Remove ads
การจัดอันดับ
ภาษาชวาเป็นส่วนหนึ่งของสาขามลายู-พอลินีเชียในตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน แม้ว่าความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับภาษากลุ่มมลายู-พอลินีเชียอื่น ๆ ยากที่จะระบุได้ Isidore Dyen ใช้กระบวนการทางศัพทสถิติศาสตร์ในการจัดภาษาชวาเป็นส่วนหนึ่งของ "Javo-Sumatra Hesion" ซึ่งรวมภาษาซุนดาและกลุ่มภาษา "มาเลย์อิก"[a][6][7] นักภาษาศาสตร์ Berndt Nothofer ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่พยายามสร้างกลุ่มภาษาใหม่โดยใช้ภาษาเพียงสี่ภาษาที่มีการรับรองดีที่สุดในขณะนั้น (ชวา ซุนดา มาดูรา และมลายู) ก็เรียกกลุ่มนี้เป็น "มลายู-ชวา"[8]
กลุ่มภาษามลายู-ชวาถูกนักภาษาศาสตร์หลายคนวิจารณ์และปฏิเสธ[9][10] Alexander Adelaar ไม่รวมภาษาชวาในการจัดกลุ่มมลายู-ซุมบาวาที่เขาเสนอ (ซึ่งรวมกลุ่มภาษามาเลย์อิก ซุนดา และมาดูรา)[10][11] รอเบิร์ต บลัสต์ก็ไม่รวมภาษาชวาในกลุ่มย่อยเกรตเตอร์บอร์เนียวเหนือ ซึ่งเขาเสนอเป็นทางเลือกหนึ่งของการจัดกลุ่มมลายู-ซุมบาวา อย่างไรก็ตาม บลัสต์ยังแสดงถึงความเป็นไปได้ที่กลุ่มภาษาเกรตเตอร์บอร์เนียวเหนือมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับภาษากลุ่มอินโดนีเซียตะวันตกอื่น ๆ อีกหลายภาษา ซึ่งรวมถึงภาษาชวาด้วย[12] ข้อเสนอแนะของบลัสต์ยังได้รับการอธิบายเพิ่มเติมจากอเล็กซานเดอร์ สมิธที่รวมภาษาชวาเข้าในกลุ่มอินโดนีเซียตะวันตก (ซึ่งอยู่ในกลุ่มภาษาเกรตเตอร์บอร์เนียวเหนือและกลุ่มย่อยอื่น ๆ) ซึ่งสมิธถือเป็นหนึ่งในสายหลักของมลายู-พอลินีเชีย[13]
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
โดยทั่วไป ประวัติภาษาชวาแบ่งออกเป็นสองช่วง: 1) ชวาโบราณ และ 2) ชวาใหม่[11][14]
ภาษาชวาโบราณ
หลักฐานการเขียนในเกาะชวาย้อนหลังไปได้ถึงยุคของจารึกภาษาสันสกฤต จารึกตรุมเนคระ ใน พ.ศ. 993 ส่วนการเขียนด้วยภาษาชวาที่เก่าที่สุดคือจารึกสุกภูมีซึ่งระบุวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 1346 จารึกนี้พบที่เกอดีรีในชวาตะวันออกและเป็นสำเนาของจารึกต้นฉบับที่น่าจะมีอายุ 120 ปีก่อนหน้านั้น แต่หลักฐานเหลือเพียงจารึกที่เป็นสำเนาเท่านั้น เนื้อหากล่าวถึงการสร้างเขื่อนใกล้กับแม่น้ำสรินยังในปัจจุบัน จารึกนี้เป็นจารึกรุ่นสุดท้ายที่ใช้อักษรปัลลวะ จารึกรุ่นต่อมาเริ่มใช้อักษรชวา
ในพุทธศตวรรษที่ 13–14 เป็นยุคที่เริ่มมีวรรณคดีพื้นบ้านในภาษาชวา เช่น สัง ฮยัง กะมาฮะยานีกัน ที่ได้รับมาจากพุทธศาสนา และ กากาวัน รามายานา ที่มาจากรามายณะฉบับภาษาสันสกฤต แม้ว่าภาษาชวาจะใช้เป็นภาษาเขียนทีหลังภาษามลายู แต่วรรณคดีภาษาชวายังได้รับการสืบทอดจนถึงปัจจุบัน เช่นวรรณคดีที่ได้รับมาจากรามายณะและมหาภารตะยังได้รับการศึกษาจนถึงทุกวันนี้
การแพร่กระจายของวัฒนธรรมชวารวมทั้งอักษรชวาและภาษาชวาเริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1836 ซึ่งเกิดจากการขยายตัวไปทางตะวันออกของราชอาณาจักรมัชปาหิตซึ่งเป็นอาณาจักรที่นับถือศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ ไปสู่เกาะมาดูราและเกาะบาหลี ภาษาชวาแพร่ไปถึงเกาะบาหลีเมื่อ พ.ศ. 1906 และมีอิทธพลอย่างลึกซึ้ง โดยภาษาชวาเข้ามาแทนที่ภาษาบาหลีในฐานะภาษาทางการปกครองและวรรณคดี ชาวบาหลีรักษาวรรณคดีเก่าที่เป็นภาษาชวาไว้มาก และไม่มีการใช้ภาษาบาหลีเป็นภาษาเขียนจนถึงพุทธศตวรรษที่ 24

ภาษาชวายุคกลาง
ในยุคของราชอาณาจักรมัชปาหิต ได้เกิดภาษาใหม่ขึ้นคือภาษาชวายุคกลางที่อยู่ระหว่างภาษาชวาโบราณและภาษาชวาสมัยใหม่ จริง ๆ แล้ว ภาษาชวายุคกลางมีความคล้ายคลึงกับภาษาชวาสมัยใหม่จนผู้พูดภาษาชวาสมัยใหม่ที่ศึกษาวรรณคดีสามารถเข้าใจได้ ราชอาณาจักรมัชปาหิตเสื่อมลงเนื่องจากการรุกรานของต่างชาติและอิทธิพลของศาสนาอิสลาม และการคุกคามของสุลต่านแห่งเดอมักที่อยู่ทางชายฝั่งด้านเหนือของเกาะชวา ราชอาณาจักรมัชปาหิตสิ้นอำนาจลงเมื่อ พ.ศ. 2021
ภาษาชวาใหม่
ภาษาชวาสมัยใหม่เริ่มปรากฏเมื่อพุทธศตวรรษที่ 21 พร้อม ๆ กับการเข้ามามีอิทธิพลของศาสนาอิสลาม และการเกิดรัฐสุลต่านมะตะรัม รัฐนี้เป็นรัฐอิสลามที่สืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมจากยุคราชอาณาจักรมัชปาหิต วัฒนธรรมชวาแพร่หลายไปทางตะวันตก เมื่อรัฐมะตะรัมพยายามแพร่อิทธิพลไปยังบริเวณของผู้พูดภาษาซุนดาทางตะวันตกของเกาะชวา ทำให้ภาษาชวากลายเป็นภาษาหลักในบริเวณนั้น เช่นเดียวกับภาษาบาหลี ไม่มีการใช้ภาษาซุนดาเป็นภาษาเขียนจนถึงพุทธศตวรรษที่ 24 และได้รับอิทธิพลจากภาษาชวามาก คำศัพท์ร้อยละ 40 ในภาษาซุนดาได้มาจากภาษาชวา
แม้ว่าจะเป็นจักรวรรดิอิสลาม แต่ราชอาณาจักรมะตะรัมก็ยังรักษาหน่วยเดิมที่มาจากวัฒนธรรมเก่าไว้และพยายามรวมเข้ากับศาสนาใหม่ จึงเป็นเหตุผลที่ยังคงมีการใช้อักษรชวาอยู่ ในขณะที่อักษรดั้งเดิมของภาษามลายูเลิกใช้ไปตั้งแต่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยหันไปใช้อักษรที่มาจากอักษรอาหรับแทน ในยุคที่ศาสนาอิสลามกำลังรุ่งเรืองราวพุทธศตวรรษที่ 21 ได้เกิดภาษาชวาใหม่ขึ้น มีเอกสารทางศาสนาอิสลามฉบับแรก ๆ ที่เขียนด้วยภาษาชวาใหม่ ซึ่งมีคำศัพท์และสำนวนที่ยืมมาจากภาษาอาหรับมาก ต่อมาเมื่อได้รับอิทธิพลจากภาษาดัตช์และภาษาอินโดนีเซีย ทำให้ภาษาชวาพยายามปรับรูปแบบให้ง่ายขึ้น และมีคำยืมจากต่างชาติมากขึ้น
ภาษาชวาสมัยใหม่
นักวิชาการบางคนแยกภาษาชวาที่ใช้พูดตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 25 ว่าเป็นภาษาชวาสมัยใหม่ แต่ก็ยังคงถือว่าเป็นภาษาเดียวกับภาษาชวาใหม่
ภาษาชวาในปัจจุบัน
ภาษาชวาไม่ใช่ภาษาประจำชาติโดยมีสถานะเป็นแค่ภาษาประจำถิ่นในจังหวัดที่มีชาวชวาอยู่เป็นจำนวนมาก มีการสอนภาษาชวาในโรงเรียนและมีการใช้ในสื่อต่าง ๆ ไม่มีหนังสือพิมพ์รายวันเป็นภาษาชวา แต่มีนิตยสารภาษาชวา ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของชวาตะวันออกออกอากาศเป็นภาษาชวาด้วยภาษาถิ่นชวากลางและภาษามาดูราด้วย ใน พ.ศ. 2548 มีการออกนิตยสารภาษาชวา Damar Jati ในจาการ์ตา
Remove ads
การกระจายตามเขตภูมิศาสตร์
สรุป
มุมมอง
ภาษาชวาเป็นภาษาที่ใช้พูดทั่วอินโดนีเซีย ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนเธอร์แลนด์ ซูรินาม นิวแคลิโดเนีย และประเทศอื่น ๆ ชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของผู้พูดภาษานี้ อยู่ใน 6 จังหวัดบนเกาะชวา และจังหวัดลัมปุงบนเกาะสุมาตรา จากข้อมูล พ.ศ. 2523 ชาวอินโดนีเซียร้อยละ 43 ใช้ภาษาชวาในชีวิตประจำวัน โดยมีผู้พูดภาษาชวาได้ดีมากกว่า 60 ล้านคน ในแต่ละจังหวัดของอินโดนีเซียมีผู้พูดภาษาชวาได้ดีอย่างน้อยร้อยละ 1
ในชวาตะวันออก มีผู้พูดภาษาชวาในชีวิตประจำวันร้อยละ 74.5, ภาษามาดูราร้อยละ 23 และภาษาอินโดนีเซียร้อยละ 2.2 ในจังหวัดลัมปุง มีผู้พูดภาษาชวาในชีวิตประจำวันร้อยละ 62.4, ภาษาลัมปุงร้อยละ 16.4, ภาษาซุนดาร้อยละ 10.5 และภาษาอินโดนีเซียร้อยละ 9.4 ส่วนในจาการ์ตา มีจำนวนผู้พูดภาษาชวาเพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เท่า ในเวลา 25 ปี แต่ในอาเจะฮ์กลับลดจำนวนลง ในบันเติน ชวาตะวันตก ผู้สืบทอดมาจากรัฐสุลต่านมะตะรัมในชวากลาง ยังใช้รูปแบบโบราณของภาษาชวา มีผู้พูดภาษาซุนดาและภาษาอินโดนีเซียตามแนวชายแดนติดกับจาการ์ตา
จังหวัดชวาตะวันออกยังเป็นบ้านเกิดของผู้พูดภาษามาดูรา แต่ชาวมาดูราส่วนใหญ่พูดภาษาชวาได้ด้วย ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 24 เป็นต้นมา มีการเขียนภาษามาดูราด้วยอักษรชวา ในลัมปุง มีชนพื้นเมืองที่พูดภาษาลัมปุงเพียงร้อยละ 15 ที่เหลือเป็นผู้อพยพมาจากส่วนอื่น ๆ ของอินโดนีเซีย ซึ่งผู้อพยพเข้ามาส่วนใหญ่เป็นผู้พูดภาษาชวา ในซูรินามซึ่งเป็นอดีตอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ในอเมริกาใต้ มีผู้ที่เป็นลูกหลานของชาวชวาและยังพูดภาษาชวาอยู่ราว 75,000 คน
สัทวิทยา
หน่วยเสียงภาษาชวามาตรฐานสมัยใหม่มีดังนี้[15][16]
สระ
ในพยางค์ปิด สระ /i u e o/ ออกเสียงเป็น [ɪ ʊ ɛ ɔ] ตามลำดับ[15][17] ในพยางค์เปิด สระ /e o/ ยังออกเสียงเป็น [ɛ ɔ] เมื่อสระที่ตามมาคือสระ /i u/ ในพยางค์เปิด ไม่เช่นนั้นก็จะออกเสียงเป็นสระ /ə/ หรือออกเสียงเหมือนกัน (/e...e/, /o...o/) ในภาษาถิ่นซูราการ์ตาซึ่งเป็นมาตรฐาน สระ /a/ จะออกเสียงเป็น [ɔ] เมื่ออยู่ในพยางค์เปิดท้ายคำและเมื่ออยู่ในพยางค์เปิดที่เป็นพยางค์รองสุดท้ายของคำ ก่อนหน้า [ɔ] ดังกล่าว
พยัญชนะ
หน่วยเสียงพยัญชนะ "ก้อง" ในภาษาชวาที่จริงแล้วไม่ใช่เสียงก้อง แต่เป็นเสียงไม่ก้องที่มีเสียงพูดลมแทรกอยู่ในสระที่ตามมา[15] นอกจากภาษามาดูราแล้ว ภาษาชวาเป็นเพียงภาษาเดียวในอินโดนีเซียตะวันตกที่มีการจำแนกความต่างระหว่างหน่วยเสียงพยัญชนะฟันกับหน่วยเสียงพยัญชนะปลายลิ้นม้วน[15]
Remove ads
ไวยากรณ์
การเรียงประโยค
ภาษาชวาสมัยใหม่เรียงประโยคแบบ ประธาน-กริยา-กรรม ในขณะที่ภาษาชวาโบราณเรียงประโยคแบบ กริยา-ประธาน-กรรม หรือ กริยา-กรรม-ประธาน ตัวอย่างเช่น ประโยค "เขาเข้ามาในพระราชวัง" เขียนได้ดังนี้
- ชวาโบราณ: Těka (กริยา) ta sira (ประธาน) ri ng (คำชี้เฉพาะ) kadhatwan (กรรม)
- ชวาสมัยใหม่: Dheweke (ประธาน) těka (กริยา) neng kĕdhaton (กรรม)
คำกริยา
ไม่มีการผันคำกริยาตามบุคคลหรือจำนวน ไม่มีการแสดงกาลแต่ใช้การเติมคำช่วย เช่น "เมื่อวานนี้" "แล้ว" แบบเดียวกับภาษาไทย ระบบของคำกริยาในการแสดงความแตกต่างของประธานและกรรมค่อนข้างซับซ้อน
Remove ads
วงศัพท์
ภาษาชวามีศัพท์มากมายที่เป็นคำยืมและคำดั้งเดิมของภาษาตระกูลออสโตรนีเซีย ภาษาสันสกฤตมีอิทธิพลต่อภาษาชวามาก คำยืมจากภาษาสันสกฤตมักเป็นคำที่ใช้ในวรรณคดี และยังคงใช้อยู่ คำยืมจากภาษาอื่น ๆ มีภาษาอาหรับ ภาษาดัตช์ และภาษามลายู
ภาษาชวามีคำยืมจากภาษาอาหรับน้อยกว่าภาษามลายู โดยมากเป็นคำที่ใช้ในศาสนาอิสลาม เช่น pikir ("คิด" มาจากภาษาอาหรับ fikr), badan ("ร่างกาย"), mripat ("ตา" คาดว่ามาจากภาษาอาหรับ ma'rifah หมายถึง "ความรู้" หรือ "วิสัยทัศน์") คำยืมจากภาษาอาหรับนี้มีศัพท์พื้นเมืองและคำยืมจากภาษาสันสกฤตที่มีความหมายเหมือนกันใช้อยู่ด้วย เช่น pikir = galih, idhĕp (ออสโตรนีเซีย) และ manah, cipta หรือ cita (จากภาษาสันสกฤต); badan = awak (ออสโตรนีเซีย) และ slira, sarira, หรือ angga (จากภาษาสันสกฤต); และ mripat = mata (ออสโตรนีเซีย) และ soca หรือ netra (จากภาษาสันสกฤต)
ต่อไปนี้เป็นตารางเปรียบเทียบศัพท์จากภาษาต่าง ๆ
Remove ads
ทำเนียบภาษา

การพูดภาษาชวาแตกต่างไปขึ้นกับบริบททางสังคมทำให้มีการแบ่งชั้นของภาษา แต่ละชั้นมีศัพท์ กฎทางไวยากรณ์ และฉันทลักษณ์เป็นของตนเอง การแบ่งชั้นนี้ไม่ใช่ลักษณะเฉพาะของภาษาชวา เพราะพบในภาษาในเอเชียหลายภาษา เช่น ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น แต่ละชั้นของภาษาชวามีชื่อเรียกดังนี้
- โงโก (ꦔꦺꦴꦏꦺꦴ): รูปแบบพูดอย่างไม่เป็นทางการระหว่างเพื่อนและญาติสนิท และใช้โดยคนที่มีฐานะสูงกว่าเมื่อพูดกับคนที่มีฐานะต่ำกว่า เช่น ผู้ใหญ่ใช้กับเด็ก
- มัดยา (ꦩꦢꦾ): รูปแบบกลาง ๆ ระหว่างโงโกกับกรามา สำหรับในสถานะที่ไม่ต้องการทั้งความเป็นทางการและไม่เป็นทางการ คำนี้มาจากภาษาสันสกฤตว่า มัธยะ ("กลาง")[18]
- กรามา (ꦏꦿꦩ): รูปแบบที่สุภาพและเป็นทางการ ใช้กับคนที่อยู่ในสถานะเดียวกัน เป็นรูปแบบที่ใช้พูดในที่สาธารณะ การประกาศต่าง ๆ ใช้โดยคนที่มีฐานะต่ำกว่าเมื่อพูดกับคนที่มีฐานะสูงกว่า เช่น เด็กพูดกับผู้ใหญ่ คำนี้มาจากภาษาสันสกฤตว่า กรมา ("ตามลำดับ")[18]
สถานะในสังคมที่มีผลต่อรูปแบบของภาษาชวากำหนดโดยอายุหรือตำแหน่งในสังคม การเลือกใช้ภาษาระดับใดนั้นต้องอาศัยความรอบรู้ในวัฒนธรรมชวาและเป็นสิ่งที่ยากสำหรับการเรียนภาษาชวาของชาวต่างชาติ
Remove ads
ภาษาถิ่นของภาษาชวาสมัยใหม่
สรุป
มุมมอง
ภาษาถิ่นของภาษาชวาแบ่งได้เป็นสามกลุ่มตามบริเวณย่อยที่มีผู้พูดภาษาเหล่านี้อาศัยอยู่ คือ ภาษาชวากลาง ภาษาชวาตะวันออก และภาษาชวาตะวันตก ความแตกต่างระหว่างภาษาถิ่นอยู่ที่การออกเสียงและคำศัพท์
- ภาษาชวากลางเป็นภาษาถิ่นที่ใช้พูดในซูราการ์ตาและยกยาการ์ตา ถือเป็นภาษาถิ่นมาตรฐานของภาษานี้ มีผู้พูดกระจายตั้งแต่เหนือถึงใต้ของจังหวัดชวากลาง
- ภาษาชวาตะวันตกใช้พูดทางตะวันตกของจังหวัดชวากลางและตลอดทั้งจังหวัดชวาตะวันตก โดยเฉพาะชายฝั่งทางตอนเหนือ ได้รับอิทธิพลจากภาษาซุนดา และยังมีศัพท์เก่า ๆ อยู่มาก
- ภาษาชวาตะวันออกเริ่มใช้พูดจากฝั่งตะวันออกของกาลี บรันตัส ในเกอร์โตโซโนไปจนถึงบาญูวังกี ครอบคลุมบริเวณส่วนใหญ่ของจังหวัดชวาตะวันออก รวมเกาะมาดูราด้วย ภาษาถิ่นนี้ได้รับอิทธิพลจากภาษามาดูรา ภาษาถิ่นตะวันออกสุดได้รับอิทธิพลจากภาษาบาหลี
การออกเสียง
ชาวชวาส่วนใหญ่ยกเว้นในชวาตะวันตก ยอมรับการออกเสียง a เป็น /ออ/ เช่น apa ในภาษาชวาตะวันตกออกเสียงเป็นอาปา ส่วนภาษาชวากลางและภาษาชวาตะวันออกออกเสียงเป็นออปอ
เมื่อมีหน่วยเสียงที่มีโครงสร้างเป็นสระ-พยัญชนะ-สระ โดยสระทั้งสองเสียงเป็นเสียงเดียวกัน ภาษาชวางกลางลดเสียงสระตัวท้าย i เป็น e และ u เป็น o ภาษาชวาตะวันออกลดทั้งสองเสียงส่วนภาษาชวาตะวันตกคงเสียงเดิมไว้ เช่น cilik ภาษาชวากลางเป็น จิเละ ภาษาชวาตะวันออกเป็น เจะเละ ภาษาชวาตะวันตกเป็น จิลิก
วงศัพท์
ภาษาชวามีคำศัพท์ที่ต่างกันไปในแต่ละภาษาถิ่น เช่นคำว่าคุณ ชวากลางเป็น kowe ภาษาชวาตะวันออกเป็น kon ภาษาชวาตะวันตกเป็น rika
Remove ads
อักขรวิธี

ภาษาชวามีรูปเขียนแบบดั้งเดิมด้วยอักษรชวา อักษรชวาและอักษรบาหลีที่มีความเกี่ยวข้องสืบต้นตอจากอักษรกวิเก่า ซึ่งเป็นอักษรพราหมีที่เข้าสู่ชวาพร้อมกับศาสนาฮินดูและพุทธ นอกจากนี้ ยังสามารถเขียนด้วยอักษรอาหรับ (รู้จักกันในชื่ออักษรเปโกน) และปัจจุบันเขียนด้วยอักษรละตินแทนอักษรชวา ด้วยจุดประสงค์ทางการใช้งาน โดยอักขรวิธีละตินอิงจากอักขรวิธีดัตช์ที่นำเข้าใน พ.ศ. 2469 แล้วปรับปรุงใน พ.ศ. 2515–2516 รูปแบบอักษรละตินในปัจจุบันมีดังนี้:
ตัวพิมพ์ใหญ่ | ||||||||||||||||||||||||||||||||
A | Å | B | C | D | Dh | E | É | È | F | G | H | I | J | K | L | M | N | Ng | Ny | O | P | Q | R | S | T | Th | U | V | W | X | Y | Z |
ตัวพิมพ์เล็ก | ||||||||||||||||||||||||||||||||
a | å | b | c | d | dh | e | é | è | f | g | h | i | j | k | l | m | n | ng | ny | o | p | q | r | s | t | th | u | v | w | x | y | z |
สัทอักษรสากล | ||||||||||||||||||||||||||||||||
a | ɔ | b̥ | tʃ | d̪̥ | ɖ̥ | ə, e | e | ɛ | f | g̊ | h | i | dʒ̊ | k | l | m | n | ŋ | ɲ | ɔ, o | p | q | r | s | t̪ | ʈ | u | v | w | x | j | z |
อักษรที่เป็นตัวเอียงคืออักษรที่ใช้ในคำยืมจากภาษาอาหรับและภาษายุโรป
อักษรชวา:
พยัญชนะฐาน | |||||||||||||||||||
ꦲ | ꦤ | ꦕ | ꦫ | ꦏ | ꦢ | ꦠ | ꦱ | ꦮ | ꦭ | ꦥ | ꦝ | ꦗ | ꦪ | ꦚ | ꦩ | ꦒ | ꦧ | ꦛ | ꦔ |
ha | na | ca | ra | ka | da | ta | sa | wa | la | pa | dha | ja | ya | nya | ma | ga | ba | tha | nga |
ตัวอย่าง
ตัวอย่างข้อความภาษาชวามาจากปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนข้อที่ 1
Remove ads
หมายเหตุ
- "มาเลย์อิก"ของ Dyen แตกต่างจาก"มาเลย์อิก"ตามแนวคิดสมัยใหม่ (เสนอโดย Alexander Adelaar) มาเลย์อิกของ Dyen รวมภาษามาดูรา อาเจะฮ์ และภาษากลุ่มมาลายา (=ปัจจุบันคือมาเลย์อิก)
อ้างอิง
แหล่งข้อมูล
อ่านเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads