คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
สมศักดิ์ เทพสุทิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
สมศักดิ์ เทพสุทิน (เกิด 13 มกราคม พ.ศ. 2498) เป็นนักการเมืองชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายกระทรวง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย
สมศักดิ์เคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากการเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 แต่ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยการจัดตั้งกลุ่มมัชฌิมา จาก สส. กลุ่มวังน้ำยมเดิม ที่ลาออกจากพรรคไทยรักไทยก่อนการตัดสินคดียุบพรรค โดยต่อมากลุ่มนี้ย้ายไปสังกัดพรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคภูมิใจไทยตามลำดับ
Remove ads
ประวัติ
สมศักดิ์ เทพสุทิน มีชื่อเล่นว่า "เอ็ม" เป็นบุตรของนายประเสริฐ และนางพร เทพสุทิน เกิดวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2498 ที่ตำบลคลองตาล อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย สำเร็จการศึกษาชั้น มศ.3 จากโรงเรียนศรีสำโรงชนูปถัมภ์ จังหวัดสุโขทัย จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร จบการศึกษาจาก ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในปี พ.ศ. 2521 และ ปริญญาโทรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต (สาขาบริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2538[1]
ชีวิตครอบครัว สมรสกับอนงค์วรรณ เทพสุทิน มีบุตร - ธิดา 2 คน คือ ณัฐธิดา เทพสุทิน และ เทิดไท เทพสุทิน และดำเนินธุรกิจก่อสร้าง (ห้างหุ้นส่วน สุโขทัย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด) และกิจการฟาร์ม (เทิดไทฟาร์ม) ซึ่งหลังจากโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากการยุบพรรคไทยรักไทย สมศักดิ์ได้กลับมาบริหารเทิดไทฟาร์ม[2]
พี่ชายของภรรยานายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้แก่ นายมนู พุกประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัยสองสมัย[3]
พ.ศ. 2556 ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลจังหวัดสุโขทัย
Remove ads
การเมือง
สรุป
มุมมอง
สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย ตั้งแต่ปี 2526 ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรกในรัฐบาลของพลเอก สุจินดา คราประยูร ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข[4] ในรัฐบาลชุดต่อมาของชวน หลีกภัย จึงได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม[5] ต่อมาในคณะรัฐมนตรีบรรหาร เขาได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเช่นเดิม[6] ต่อเนื่องมาจนกระทั่งรัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ และยังได้รับการปรับใปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
สมศักดิ์ เทพสุทิน ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลชวน 2 ต่อมาจึงได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย และลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้งปี 2544 โดยให้ภรรยาลงสมัครในระบบเขตแทน และสมศักดิ์ ยังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในปี 2545 แล้วจึงปรับมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี พ.ศ. 2546 และเป็นรองนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา จากนั้นในปี 2548 จึงได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้งในรัฐบาลทักษิณ 2 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา[7] และปรับเปลี่ยนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
สมศักดิ์ เป็นหัวหน้ากลุ่มการเมืองในพรรคไทยรักไทยที่ชื่อ "กลุ่มวังน้ำยม" อันเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในพรรค ในการหาเสียงการเลือกตั้งในปี 2548 สมศักดิ์ มีนโยบายที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ "โคล้านตัว" เป็นนโยบายที่จะทำการแจกโคให้แก่เกษตรกรฟรีทั่วประเทศ และเป็นที่มาของการจัดตั้งบริษัท ส่งเสริมธุรกิจเกษตรกรไทย จำกัด แต่โครงการดังกล่าวก็ไม่ประสบความสำเร็จ สามารถดำเนินการจัดหาโคได้เพียง 21,684 ตัวเท่านั้น[8]
หลังรัฐประหาร พ.ศ. 2549
หลังการรัฐประหารในปี 2549 สมศักดิ์และกลุ่มวังน้ำยมได้ลาออกจากพรรคไทยรักไทย ไปจัดตั้งกลุ่มของตัวเองขึ้นมาใหม่ ใช้ชื่อว่า "กลุ่มมัชฌิมา" ต่อมาในปี 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549[9] แต่ก็ยังดำเนินการทางการเมือง ด้วยการนำพาสมาชิกที่เหลือไปสังกัดกับทางพรรคประชาราช โดยที่นางอนงค์วรรณได้เป็นเลขาธิการพรรคในเวลาต่อมา แต่ก็อยู่กับทางพรรคประชาราชได้ไม่นาน เมื่อประชัย เลี่ยวไพรัตน์ มีความเห็นไม่ลงตัวกับเสนาะ เทียนทอง กลุ่มของประชัยและสมศักดิ์จึงได้ไปรวมตัวกันใหม่ ในชื่อ พรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยที่นางอนงค์วรรณก็ได้เป็นเลขาธิการพรรคด้วย
ต่อมาในปี 2551 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำพิพากษายุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ทำให้ ส.ส. ในกลุ่มของนายสมศักดิ์ จึงได้ย้ายมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มเพื่อนเนวิน ในนามพรรคภูมิใจไทย และนายสมศักดิ์ ก็ยังนับได้ว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในฐานะแกนนำกลุ่ม ส.ส. ซึ่งสื่อมวลชนให้ชื่อกลุ่มแกนนำนี้ว่า "8ส.+ส.พิเศษ" อันประกอบด้วย สมศักดิ์ เทพสุทิน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล สุวิทย์ คุณกิตติ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ สนธยา คุณปลื้ม และสรอรรถ กลิ่นประทุมส่วน ส.พิเศษ คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์[10]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 16[11]
หลังรัฐประหาร พ.ศ. 2557
ในปี 2561 สมศักดิ์ ได้ระบุจะไม่ทำการยืนยันสมาชิกกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเท่ากับสิ้นสุดการเป็นสมาชิกพรรค[12] และได้ประกาศเข้าร่วมงานกับ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อกลุ่มการเมืองของตนจากกลุ่ม วังน้ำยม หรือ มัชฌิมา เป็น กลุ่มสามมิตร โดยจับมือกับสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการ พรรคไทยรักไทย ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มสามมิตรทำการทาบทามบรรดาอดีต ส.ส. ส.ว. และนักการเมืองท้องถิ่นให้เข้าร่วมงานกับ พรรคพลังประชารัฐ
กระทั่งวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2566 สมศักดิ์ได้แถลงลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และได้ย้ายกลับไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง พร้อมอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตหัวหน้ากลุ่มสามมิตร สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ[13] [14] หลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2566 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย และได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน[15] แต่ต่อมาถูกโยกย้ายตำแหน่งไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แทน น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว
Remove ads
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2538 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[16]
- พ.ศ. 2536 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[17]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads