คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

จังหวัดสมุทรสาคร

จังหวัดในภาคกลางในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

จังหวัดสมุทรสาครmap
Remove ads

สมุทรสาคร เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้รับการจัดตั้งขึ้นครั้งล่าสุดตามพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนครนายก พุทธศักราช 2489 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม พุทธศักราช 2489

ข้อมูลเบื้องต้น จังหวัดสมุทรสาคร, การถอดเสียงอักษรโรมัน ...
Remove ads

ประวัติศาสตร์

สรุป
มุมมอง

สมุทรสาครเป็นจังหวัดชายทะเล ตั้งอยู่ปากแม่น้ำท่าจีน หลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมุทรสาครเดิมเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีชาวจีนนำเรือสำเภาเข้ามาจอดเทียบท่าค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าและได้พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเรียกว่า บ้านท่าจีน ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวไทย ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2099) ได้โปรดให้ยกฐานะบ้านท่าจีนขึ้นเป็น เมืองสาครบุรี เพื่อเป็นหัวเมืองสำหรับเรียกระดมพลในช่วงสงคราม และเป็นเมืองด่านหน้าป้องกันผู้รุกรานทางทะเล[3]

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงโปรดให้เปลี่ยนชื่อเมืองสาครบุรีเป็น เมืองสมุทรสาคร ต่อมาในปี พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้มีพระราชดำริที่จะทรงปฏิรูปการปกครองบริหารราชการส่วนภูมิภาคเป็นมณฑลเทศาภิบาล และมีพระราชดำริที่จะสร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่น โดยใช้รูปแบบการปกครองแบบสุขาภิบาล และเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2448 มีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมเป็นสุขาภิบาล โดยเรียกว่า สุขาภิบาลท่าฉลอม ถือได้ว่าเป็นสุขาภิบาลที่ตั้งขึ้นในหัวเมืองเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) โปรดเกล้าให้ทางราชการเปลี่ยนคำว่า “เมือง” เป็น “จังหวัด” ทั่วทุกแห่งในพระราชอาณาจักร “เมืองสมุทรสาคร” จึงได้เปลี่ยนเป็น จังหวัดสมุทรสาคร มาจวบจนปัจจุบัน[3]

ส่วนคำว่า มหาชัย ที่เรียกกันโดยทั่วไปนั้น เป็นชื่อคลองที่สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีแห่งกรุงศรีอยุธยาโปรดให้ขุดคลองลัดจากเมืองธนบุรี เป็นแนวตรงไปออกปากน้ำเมืองสาครบุรีแทนคลองโคกขามที่คดเคี้ยว แต่ยังไม่ทันเสร็จทรงสวรรคตเสียก่อน จนถึงรัชสมัยสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระได้โปรดให้ขุดคลองต่อจนแล้วเสร็จ และได้พระราชทานนามว่าคลองมหาชัย ซึ่งต่อมา ณ บริเวณฝั่งซ้ายปากคลองได้เกิดชุมชนขนาดใหญ่ขึ้นชื่อว่า “มหาชัย” และเป็นที่นิยมเรียกขานแต่นั้นเป็นต้นมา[3]

Remove ads

ภูมิศาสตร์

สรุป
มุมมอง

ที่ตั้งและอาณาเขตติดต่อ

จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดชายทะเลอ่าวไทย มีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่ากลางจังหวัด เป็นจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคกลางตอนล่างของประเทศไทยประมาณเส้นรุ้งที่ 13 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 100 องศาตะวันออก เป็นจังหวัดปริมณฑล มีพื้นที่ติดกับเขตหนองแขม เขตบางบอน และเขตบางขุนเทียนของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 872.347 ตารางกิโลเมตร[3]

ภูมิประเทศ

จังหวัดสมุทรสาครมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1–2 เมตร มีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านตอนกลางจังหวัด ไหลคดเคี้ยวจากแนวเหนือลงใต้สู่อ่าวไทยที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร ระยะทางยาวประมาณ 70 กิโลเมตร พื้นที่ตอนบนในเขตอำเภอบ้านแพ้วและอำเภอกระทุ่มแบน มีความอุดมสมบูรณ์ของดินและมีโครงข่ายแม่น้ำลำคลองเชื่อมโยงถึงกันกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 170 สาย จึงเหมาะที่จะทำการเพาะปลูกพืชนานาชนิด และบางส่วนเป็นย่านธุรกิจ อุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย พื้นที่ตอนล่างของจังหวัดในเขตอำเภอเมืองสมุทรสาครอยู่ติดชายฝั่งทะเลยาว 41.8 กิโลเมตร จึงเหมาะที่จะประกอบอาชีพประมงทะเล เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งและทำนาเกลือ ในช่วงฤดูฝนบางพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการเกษตร[3]

ภูมิอากาศ

จังหวัดสมุทรสาคร มีลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบฝนเมืองร้อน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากลมบก ลมทะเล และมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านในช่วงฤดูร้อน จึงทำให้มีความชื้นในอากาศสูง มีฝนตกปานกลาง ปริมาณเฉลี่ย 1,120 มิลลิเมตรต่อปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28°C–34°C มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุด 50% สูงสุด 95%[3]

Remove ads

การปกครอง

สรุป
มุมมอง

การปกครองส่วนภูมิภาค

Thumb
แผนที่อำเภอในจังหวัดสมุทรสาคร

จังหวัดสมุทรสาครแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 3 อำเภอ, 40 ตำบล, และ 290 หมู่บ้าน

  1. อำเภอเมืองสมุทรสาคร
  2. อำเภอกระทุ่มแบน
  3. อำเภอบ้านแพ้ว

การปกครองส่วนท้องถิ่น

จังหวัดสมุทรสาครมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แบ่งตามประเภทและอำนาจบริหารจัดการภายในท้องที่ได้คือ

Thumb
เขตเทศบาลในจังหวัดสมุทรสาคร
ข้อมูลเพิ่มเติม ลำดับ, ชื่อเทศบาล ...
  1. หมายถึงปีที่ได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลในระดับปัจจุบัน
Remove ads

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

Thumb
ตราประจำจังหวัดสมุทรสาคร
Thumb
พญาสัตบรรณ ต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาคร

ตราประจำจังหวัดสมุทรสาคร เป็นรูปเรือสำเภาจีนแล่นในทะเล ด้านหลังเป็นโรงงานและปล่องไฟ ซึ่งหมายถึงความรุ่งเรืองที่มีมาจากอดีตถึงปัจจุบัน ตราประจำจังหวัดสมุทรสาคร เริ่มใช้เมื่อพุทธศักราช 2483 ในสมัยที่หลวงวิเศษภักดี (ชื้น วิเศษภักดี) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด[3]

เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พุทธศักราช 2537 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับพระราชทานพันธุ์ไม้ดังกล่าวจากสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดวันรณรงค์โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ ปีที่ 50 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเพื่อความเป็นศิริมงคลของชาวจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครจึงได้นำพันธุ์ไม้สัตบรรณพระราชทานมาปลูก เป็นปฐมฤกษ์ในกิจกรรมวันปลูกต้นไม้ตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2537 ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร จึงถือว่าต้นสัตบรรณเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาคร[3]

Remove ads

เศรษฐกิจ

สรุป
มุมมอง

จังหวัดสมุทรสาครเป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจที่มีศักยภาพทั้งทางด้านการอุตสาหกรรม การประมง และการเกษตรกรรม จากข้อมูลสถิติผลิตภัณฑ์ภาคและจังหวัด (GPP) ประจำปี พ.ศ. 2565 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จังหวัดสมุทรสาครมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2565 เท่ากับ 440,303 ล้านบาท ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี (GPP Per Capita) เท่ากับ 405,187 บาท โดยมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2564–2565 อยู่ที่ร้อยละ 3.36 แยกเป็นภาคการเกษตร 10,414 ล้านบาท (ร้อยละ 2.37) และนอกภาคเกษตร 429,888 ล้านบาท (ร้อยละ 97.63) โดยสาขาหลักที่มีมูลค่าสูงที่สุด ได้แก่ สาขาการผลิต 298,184 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ สาขาการบริการ 120,265 ล้านบาท การขายส่ง ขายปลีก และการซ่อมแซมยานยนต์ จักรยานยนต์ 68,108 ล้านบาท กิจกรรมทางการเงินและประกันภัย 10,874 ล้านบาท และไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และเครื่องปรับอากาศ 8,641 ล้านบาท ตามลำดับ จังหวัดสมุทรสาครยังเป็นจังหวัด 1 ใน 10 ของจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงตลอดมา[18][19]

การเกษตร

Thumb
การทำนาเกลือในจังหวัดสมุทรสาคร

สภาพทั่วไปของจังหวัดสมุทรสาครเป็นพื้นที่ราบลุ่มสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1–2 เมตร มีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่จากทางด้านเหนือไหลลงสู่อ่าวไทยที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีคลองชลประทานจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ เพื่อการคมนาคมและเพื่อการชลประทาน

ทางด้านทิศเหนือของจังหวัดจะเป็นพื้นที่การเกษตร ซึ่งประกอบด้วย นาข้าว และสวนผลไม้ โดยสวนผลไม้ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอกระทุ่มแบน โดยเฉพาะพื้นที่ดินที่อยู่ใกล้คลองดำเนินสะดวก และคลองภาษีเจริญ จะมีการปลูกไม้ยืนต้น ผักผลไม้เป็นจำนวนมาก เช่น มะพร้าว ปาล์ม

ทางทิศใต้ เป็นบริเวณที่ราบและน้ำทะเลท่วมถึง มีสภาพเป็นป่าชายเลนและมีการทำนาเกลือ ซึ่งในเวลาต่อมาป่าชายเลนได้ถูกทำลายลงจนเหลือพื้นที่ป่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการทำนาเกลือได้เปลี่ยนมาทำการเลี้ยงกุ้งเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของพื้นที่บริเวณที่น้ำท่วมไม่ถึงมีการทำสวนมะพร้าวเป็นจำนวนมาก

ณ พ.ศ. 2567 จังหวัดสมุทรสาครมีพื้นที่เกษตรกรรม 178,861.13 ไร่ คิดเป็น 30.08% ของพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครทั้งหมด 545,216 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ทางการผลิตด้านพืช 115,641 ไร่ พื้นที่ปลูกข้าว (นาปีและนาปรัง) 5,374 ไร่ พื้นที่ปลูกพืชสวน 77,249.48 ไร่ พื้นที่การผลิตด้านประมง 34,270.42 ไร่ พื้นที่นาเกลือ 18,835 ไร่ พื้นที่ชลประทาน 215,130 ไร่ พืชและผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมผลผลิตรวม 195,751 ตัน ฝรั่งผลผลิตรวม 40,131.97 ตัน มะนาวผลผลิตรวม 20,596.25 ตัน มะม่วงผลผลิตรวม 14,025.60 ตัน กล้วยไม้ผลผลิตรวม 8,918.00 ตัน ลำไยผลผลิตรวม 6,421.2 ตัน และเกลือทะเลผลผลิตรวม 146,924 ตัน[20]

การประมง

จังหวัดสมุทรสาครมีชายฝั่งทะเลยาว 41.8 กิโลเมตร จึงมีการประกอบอาชีพ ทำการประมง และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นอาชีพหลัก ผลผลิตจากการประมงทะเลส่วนใหญ่ได้รับจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้แก่ บริเวณอ่าวไทย ทะเลอันดามัน และมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้งทะเลด้านประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ ชาวประมงจังหวัดสมุทรสาคร ยังได้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย โดยมีเรือประมงทะเล ที่เป็นเรือบรรทุกห้องเย็นขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำ ที่ไปร่วมทำการประมง ในน่านน้ำต่างประเทศ เช่น พม่า อินโดนีเซีย เวียดนามไปจนถึงประเทศในทวีปแอฟริกา เช่น โซมาเลีย เยเมน ซึ่งวัตถุดิบที่จับได้จะเป็นปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาเก๋า ปลากะพง ปลาหมึก โดยเรือบรรทุกขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำ (เรือแม่) จะนำสินค้าสัตว์น้ำกลับขึ้นฝั่ง โดยมีท่าเทียบเรือและรถตู้คอนเทนเนอร์ ตลอดจนแพปลาจำนวนมากรองรับ[3]

การอุตสาหกรรม

ณ พ.ศ. 2565 จังหวัดสมุทรสาครมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 6,347 แห่ง เงินลงทุน 352,049 ล้านบาท จำนวนการจ้างแรงงาน 362,833 คน แบ่งเป็นโรงงานจำพวกที่ 1 (โรงงานที่สามารถประกอบกิจการได้ทันทีตามกฎกระทรวง) จำนวน 1 โรงงาน เงินลงทุน 6.20 ล้านบาท จำนวนการจ้างแรงงาน 180 คน เป็นโรงงานจำพวกที่ 2 (โรงงานที่มีแรงม้าไม่เกิน 50 แรงม้า คนงานไม่เกิน 7 คน และจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบก่อนประกอบกิจการ) จำนวน 246 โรงงาน เงินลงทุน 2,876 ล้านบาท จำนวนการจ้างแรงงาน 5,870 คน และโรงงานจำพวกที่ 3 (โรงงานที่มีแรงม้าตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไปคนงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป และจะต้องได้รับอนุญาตก่อนถึงจะประกอบกิจการโรงงานได้) จำนวน 6,100 โรงงาน เงินลงทุน 349,166 ล้านบาท จำนวนการจ้างงาน 356,783 คน ประเภทโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการลุงทุนมากที่สุดสามอันดับแรกได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 7,568 โรงงาน เงินลงทุน 64,347 ล้านบาท คนงาน 92,362 คน อุตสาหกรรมพลาสติก มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 1,240 โรงงาน เงินลงทุน 43,820 ล้านบาท คนงาน 45,995 คน และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 1,071 โรงงาน เงินลงทุน 40,583 ล้านบาท คนงาน 38,260 คน[21]

แรงงาน

การสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากรในจังหวัดสมุทรสาครของสำนักงานสถิติจังหวัด พบว่าประชากรวัยแรงงาน ไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2567 จังหวัดสมุทรสาครมีประชากรที่อยู่ในวัยแรงงานหรือผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป 1,005,192 คน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน 802,021 คน ประกอบด้วยผู้ที่มีงานทำ 798,980 คน ผู้ว่างงาน 3,041 คน และผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงาน 203,171 คน[22]

Remove ads

การขนส่ง

สรุป
มุมมอง
Thumb
ถนนพระรามที่ 2 (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35) ในจังหวัดสมุทรสาคร

จังหวัดสมุทรสาครมีการขนส่งทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ำ ถนนสายสำคัญในจังหวัด เช่น ถนนพระรามที่ 2 (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35), ถนนเศรษฐกิจ 1 (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3091), ถนนเอกชัย (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3242), ถนนบ้านแพ้ว–พระประโทน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 375), ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4), ถนนพุทธสาคร เป็นต้น

รถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้แก่ สาย 7 อู่เอกชัย–หัวลำโพง, สาย 68 สมุทรสาคร–บางลำพู, สาย 120 สมุทรสาคร-แยกบ้านแขก, และสาย 105 (4-18) สมุทรสาคร–คลองสาน นอกจากนี้ ยังมีรถสองแถวสีส้มสาย 8183 ปิ่นทอง–สมุทรสาคร​ , รถสองแถวสีเหลืองสาย 8328 เคหะธนบุรี–สมุทรสาคร​ , รถเมล์สีส้มสาย 402 นครปฐมกระทุ่มแบน–สมุทรสาคร , และรถตู้สาย 481 สมุทรสงคราม–สมุทรสาคร ส่วนการขนส่งทางรางมีทางรถไฟสายแม่กลอง เริ่มต้นจากวงเวียนใหญ่ ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สิ้นสุดที่สถานีรถไฟมหาชัย และเริ่มต้นอีกช่วงหนึ่งที่สถานีรถไฟบ้านแหลม ต่อไปยังจังหวัดสมุทรสงคราม

ส่วนรถโดยสารประจำทางในพื้นที่เทศบาลนครอ้อมน้อย ได้แก่ สาย 81 พุทธมณฑลสาย 5–ท่าราชวรดิฐ , สาย 84 วัดไร่ขิง–คลองสาน , สาย 123 อ้อมใหญ่สนามหลวง , สาย 157 อ้อมใหญ่–อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , สาย 189 กระทุ่มแบน–สถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน , สาย 539 อ้อมน้อย–อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , สาย 163 (4-55) ศาลายา-สนามกีฬาแห่งชาติ , และสาย 547 (4-63) ศาลายา-ถนนตก

Remove ads

กีฬา

ฟุตซอล

จังหวัดสมุทรสาครมีทีมสโมสรฟุตซอลที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัด คือ ทีมห้องเย็นท่าข้าม (ชนะเลิศฟุตซอลไทยลีก 2 ครั้ง ในฤดูกาล 2566 และ 2567)

สถานที่สำคัญ

Remove ads

บุคคลที่มีชื่อเสียง

ด้านศาสนา
การเมือง-ภาครัฐ
สื่อมวลชน
ศิลปิน
กีฬา
วงการบันเทิง

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads