คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ภาษาเบงกอล
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ภาษาเบงกอล หรือตามชื่อเรียกตนเองว่า บังลา (বাংলা, Bāṅlā, [ˈbaŋla] ) เป็นภาษาอินโด-อารยันคลาสสิกจากตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียนที่พบในภูมิภาคเบงกอลในเอเชียใต้ โดยมีผู้พูดภาษาแม่มากกว่า 242 ล้านคนและพูดเป็นภาษาที่สอง 41 ล้านคน ณ ค.ศ. 2025[1] ภาษาเบงกอลเป็นภาษาแม่ที่มีผู้พูดมากเป็นอันดับ 5 และภาษาที่มีผู้พูดมากเป็นอันดับ 7 ตามจำนวนผู้พูดทั่วโลก[5][6] โดยถือเป็นภาษาอินโด-ยูโรเปียนที่มีผู้พูดมากเป็นอันดับ 5[7]
ภาษาเบงกอลเป็นภาษาราชการ ภาษาประจำชาติ และภาษาที่มีผู้พูดแพร่หลายที่สุดในประเทศบังกลาเทศ[8][9][10] โดยชาวบังกลาเทศร้อยละ 98 ใช้ภาษาเบงกอลเป็นภาษาแม่[11][12] ภาษานี้เป็นภาษาที่มีผู้พูดแพร่หลายเป็นอันดับ 2 ในอินเดีย ถือเป็นภาษาราชการในรัฐเบงกอลตะวันตก รัฐตรีปุระ และภูมิภาคหุบเขาบะรากในรัฐอัสสัม โดยยังเป็นภาษาราชการที่สองในรัฐฌาร์ขัณฑ์ตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 2011[4] ภาษานี้เป็นภาษาที่พูดกันแพร่หลายสุดในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ที่อ่าวเบงกอล[13] และในบริเวณที่ประชากรเป็นนัยยะสำคัญในรัฐต่าง ๆ เช่น รัฐพิหาร, รัฐอรุณาจัลประเทศ, เดลี, รัฐฉัตตีสครห์, รัฐเมฆาลัย, รัฐมิโซรัม, รัฐนาคาแลนด์, รัฐโอฑิศา และรัฐอุตตราขัณฑ์[14] ภาษาเบงกอลยังมีผู้พูดโดยชาวเบงกอลพลัดถิ่น (ชาวบังกลาเทศพลัดถิ่นและชาวอินเดียเชื้อสายเบงกอล) ทั่วยุโรป อเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่น ๆ[15]
ภาษาเบงกอลได้รับสถานะภาษาคลาสสิกจากรัฐบาลอินเดียในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2024[16][17] โดยเป็นภาษาที่มีผู้พูดมากเป็นอันดับ 2 และเติบโตเร็วเป็นอันดับ 4 ในประเทศอินเดีย เป็นรองจากภาษาฮินดีอันดับ 1 ภาษากัศมีร์อันดับ 2 และภาษามณีปุระ (มณีปุระ) ร่วมกับคุชราตเป็นอันดับ 3 ตามสำมะโนอินเดีย ค.ศ. 2011[18]
ภาษาเบงกอลได้รับการพัฒนามากว่า 1,400 ปี วรรณกรรมเบงกอลที่มีประวัติศาสตร์วรรณกรรมอันยาวนานนับพันปี ได้รับการพัฒนาอย่างกว้างขวางในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาเบงกอล และเป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่มีผลงานหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ที่สุดในเอเชีย ขบวนการภาษาเบงกอลใน ค.ศ. 1948 ถึง 1956 เรียกร้องให้มีการให้ภาษาเบงกอลเป็นภาษาราชการของปากีสถาน ส่งผลให้เกิดแนวคิดชาตินิยมเบงกอลในเบงกอลตะวันออก นำไปสู่การสถาปนาประเทศบังกลาเทศใน ค.ศ. 1971 โดยใน ค.ศ. 1999 ยูเนสโกระบรองให้วันที่ 21 กุมภาพันธ์เป็นวันภาษาแม่สากลที่มีการรับรองขบวนการภาษา[19][20]
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง

ภาษาเบงกอลเป็นภาษาในกลุ่มภาษาอินโด-อารยันตะวันออก พัฒนามาจากภาษาในยุคกลางคือภาษาปรากฤตมคธและภาษาไมถิลี ซึ่งเป็นภาษาดั้งเดิมที่เคยมีบันทึกในบริเวณนี้และเป็นภาษาในสมัยพุทธกาลด้วย ภาษาเหล่านี้ต่อมาพัฒนาไปเป็นภาษาอรธามคธี และพัฒนาต่อไปเป็นกลุ่มภาษาอปภรัมสะ ภาษากลุ่มนี้ที่ใช้พูดทางตะวันออกคือภาษาปุรวี อปภรัมสะ ได้พัฒนาต่อไปเป็นสำเนียงท้องถิ่นสามกลุ่มคือ ภาษาพิหาร ภาษาโอริยา และภาษาเบงกอล-อัสสัม ในส่วนของภาษาเบงกอลนั้น แบ่งเป็นสามช่วงคือ
- ภาษาเบงกอลโบราณ (พ.ศ. 1443/1543 – 1943) เอกสารที่สำคัญได้แก่ จรรยปทะ เกิดการใช้สรรพนาม Ami, tumi การผันกริยาด้วย -ila, -iba ภาษาโอริยาและภาษาอัสสัมแยกออกไปในช่วงนี้
- ภาษาเบงกอลยุคกลาง (พ.ศ. 1943 – 2343) เป็นช่วงที่ได้รับอิทธิพลจากภาษาเปอร์เซีย
- ภาษาเบงกอลใหม่ (หลัง พ.ศ. 2343) ทำให้การผันคำนาม คำกริยาสั้นลง
ภาษาเบงกอลได้รับอิทธิพลจากภาษาสันสกฤตมากขึ้นในยุคกลาง ภาษาอินโด-อารยันสมัยใหม่ในเอเชียใต้ เช่น ภาษาปัญจาบ ภาษาสินธี และภาษาคุชราตได้รับอิทธิพลจากภาษาอาหรับและภาษาเปอร์เซียมาก ซึ่งต่างจากภาษาเบงกอลและภาษาไมถิลี ที่ยังรักษารากศัพท์ที่มาจากภาษาสันสกฤตไว้ได้ ไวยากรณ์และพจนานุกรมภาษาเบงกอลฉบับแรกจัดทำขึ้นโดยมิชชันนารีชาวโปรตุเกสระหว่าง พ.ศ. 2277 - 2285
สมัยใหม่
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึง 20 มีรูปแบบภาษาเขียน 2 แบบ:
- চলিতভাষা ชลติภาษา รูปแบบภาษาพูดของภาษาเบงกอลที่ใช้การผันคำแบบง่าย
- সাধুভাষা สาธุภาษา รูปแบบภาษาเบงกอลที่เป็นทางการและสุภาพ[21][22]
ใน ค.ศ. 1948 รัฐบาลปากีสถานพยายามพยายามกำหนดให้ภาษาอูรดูเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียวในปากีสถาน ทำให้เกิดกระแสขบวนการภาษาเบงกอล[23] นี่เป็นการเคลื่อนไหวทางชาติพันธุ์ภาษาที่ได้รับความนิยมในอดีตเบงกอลตะวันออก (ปัจจุบันคือบังกลาเทศ) ซึ่งเกิดขึ้นจากความตระหนักทางภาษาที่เข้มแข็งของชาวเบงกอล และความปรารถนาที่จะส่งเสริมและปกป้องการรับรองการพูดและการเขียนภาษาเบงกอลในฐานะภาษาประจำรัฐของประเทศปากีสถานในเครือจักรภพ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 นักศึกษา 5 คนและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกสังหารในระหว่างการประท้วงใกล้บริเวณมหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยธากา ใน ค.ศ. 1956 ภาษาเบงกอลกลายเป็นภาษาประจำรัฐของปากีสถาน[23] ยูเนสโกประกาศให้วันที่ 21 กุมภาพันธ์เป็นวันขบวนการภาษาในบังกลาเทศและวันระลึกเป็นวันภาษาแม่สากลทุกปีตั้งแต่ ค.ศ. 2000
ใน ค.ศ. 2010 รัฐสภาบังกลาเทศและสภานิติบัญญัติของรัฐเบงกอลตะวันตกเสนอให้ภาษาเบงกอลเป็นภาษาทางการของสหประชาชาติ[24] ณ เดือนมกราคม ค.ศ. 2023 ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ กระนั้นใน ค.ศ. 2022 สหประชาชาติได้นำภาษาเบงกอลมาใช้เป็นภาษาอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากที่อินเดียเสนอญัตติ[25]
ใน ค.ศ. 2024 รัฐบาลอินเดียให้สถานะภาษาเบงกอลเป็นภาษาคลาสสิก[16][17]
Remove ads
การแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์
สรุป
มุมมอง
ภาษาเบงกอลเป็นภาษาแม่ในภูมิภาคเบงกอลที่ประกอบด้วยประเทศบังกลาเทศและรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดียในปัจจุบัน

ภาษาแม่
ภาษาระดับภูมิภาค
ประชากรโพ้นทะเลมากกว่าล้านคน
ประชากรโพ้นทะเลมากกว่า 100,000 คน
ประชากรโพ้นทะเลมากกว่า 10,000 คน
ประชากรโพ้นทะเลมากกว่าหนึ่งพันคน
นอกจากภูมิภาคนี้ ยังมีชาวเบงกอลที่พูดภาษานี้ในรัฐตรีปุระ, รัฐอัสสัมตอนใต้ และประชากรเบงกอลที่พูดในดินแดนสหภาพหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ นอกจากนี้ยังมีผู้พูดภาษาเบงกอลในรัฐใกล้เคียงอย่างรัฐโอฑิศา, รัฐพิหาร และรัฐฌาร์ขัณฑ์ และผู้พูดภาษาเบงกอลชนกลุ่มน้อยในนครของอินเดีย เช่น เดลี, มุมไบ, ฐาเณ, พาราณสี และวฤนทาวัน และยังมีชุมชนที่พูดภาษาเบงกอลอย่างเป็นนัยยะสำคัญในตะวันออกกลาง[26][27][28] สหรัฐ,[29] สิงคโปร์,[30] มาเลเซีย, ออสเตรเลีย, แคนาดา, สหราชอาณาจักร และอิตาลี
สถานการณ์เป็นภาษาราชการ
ภาษาเบงกอลเป็นภาษาราชการของประเทศบังกลาเทศ และเป็นภาษาราชการในรัฐเบงกอลตะวันตกและรัฐตรีปุระในอินเดีย[31] และเป็นภาษาหลักในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ เป็นภาษาราชการร่วมของรัฐอัสสัม
Remove ads
สำเนียง
มีความผันแปรในแต่ละท้องถิ่นที่พูดภาษาเบงกอล โดยแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ได้สี่กลุ่มคือ ราธ พังคะ กามรูป และวเรนทระ สำเนียงทางตะวันตกเฉียงใต้หรือราธเป็นพื้นฐานของภาษาเบงกอลมาตรฐาน ส่วนสำเนียงทางตะวันออกจะได้รับอิทธิพลจากกลุ่มภาษาทิเบต-พม่ามาก ทำให้บางสำเนียงมีความแตกต่างของเสียงวรรณยุกต์ในสำเนียงในบริเวณจิตตะกองและจักมา บางสำเนียงถูกจัดเป็นภาษาเอกเทศต่างหากเช่นภาษาฮาชอง แม้จะคล้ายกับภาษาเบงกอลสำเนียงทางเหนือ[32]
ระหว่างการจัดมาตรฐานภาษาเบงกอลในพุทธศตวรรษ 24-25 ศูนย์กลางของวัฒนธรรมเบงกอลอยู่ที่กัลกัตตา ทำให้สำเนียงทางตะวันตกตอนกลางกลายเป็นสำเนียงมาตรฐานทั้งในเบงกอลตะวันตกและบังกลาเทศ แต่ภาษาเบงกอลในสองบริเวณนี้ก็มีการใช้คำศัพท์ที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นคำศัพท์ในภาษาเบงกอลเดิมเหมือนกัน เช่น คำว่าเกลือ ทางตะวันตกใช้ noon ส่วนทางตะวันออกใช้ lôbon[33]
เสียง
ในทางสัทศาสตร์ ภาษาเบงกอลมีพยัญชนะ 29 เสียง และสระ 14 เสียงรวมทั้งสระนาสิก 7 เสียง มีเสียงสระประสมมาก การเน้นเสียงมักเน้นที่พยางค์แรกของคำ ความสั้นยาวของเสียงสระไม่มีความสำคัญในภาษาเบงกอล
ระบบการเขียน
สรุป
มุมมอง


อักษรเบงกอล-อัสสัมเป็นอักษรสระประกอบ ซึ่งเป็นชุดตัวอักษรที่มีตัวอักษรสำหรับสระ กับเครื่องหมายเสริมสัทอักษรสำหรับเสียงสระ และถ้าไม่มีการเครื่องหมายสระก็ถือว่ามีสระลดรูป (অ ô)[34] ชุดตัวอักษรเบงกอลใช้งานทั่วบังกลาเทศและอินเดียตะวันออก (อัสสัม, เบงกอลตะวันตก, ตรีปุระ) เชื่อกันว่าชุดตัวอักษรเบงกอลพัฒนามาจากอักษรพราหมีดัดแปลงเมื่อประมาณ ค.ศ. 1000 (หรือคริสต์ศตวรรษที่ 10–11)[35] อักษรเบงกอลเป็นอักษรตัวเขียนที่มีหน่วยอักขระหรือสัญลักษณ์ 11 หน่วยที่ระบุเสียงสระ 9 เสียง และสระประสมสองเสียง 2 หน่วย กับหน่วยอักขระที่แทนเสียงพยัญชนะ 39 หน่วยและส่วนขยายอื่น ๆ[35] อักษรนี้ไม่มีการแบ่งเป็นตัวพิมพ์ใหญ่และเล็ก เขียนจากซ้ายไปขวา และมีช่องว่างไว้แบ่งคำอักขรวิธี อักษรเบงกอลมีเส้นแนวนอนที่ลากไปตามส่วนบนของหน่วยอักขระซึ่งเชื่อมเข้าด้วยกันเรียกว่า মাত্রা มาตรา[36]
การถอดอักษรเบงกอลเป็นอักษร ใช้ตามระบบของภาษาสันสกฤตหรือภาษาในประเทศอินเดียรวมทั้งหอสมุดแห่งชาติกัลกัตตา
อักษรแบบอื่นและในอดีต

ตลอดทั้งประวัติศาสตร์ มีบางกรณีที่ภาษาเบงกอลใช้เขียนด้วยอักษรที่แตกต่างกัน แม้ว่าการใช้ภาษาเหล่านี้จะไม่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางและจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มก็ตาม เนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเบงกอล พื้นที่เบงกอลที่ติดกับภูมิภาคที่ไม่ใช่เบงกอลจึงได้รับอิทธิพลซึ่งกันและกัน ประชากรจำนวนน้อยใน Midnapore ที่อยู่ติดกับรัฐโอฑิศาใช้อักษรโอริยาในการเขียนภาษาเบงกอล ส่วนในพื้นที่ชายแดนระหว่างรัฐเบงกอลตะวันตกกับรัฐพิหาร ชุมชนชาวเบงกอลบางแห่งในอดีตเขียนภาษาเบงกอลด้วยอักษรเทวนาครี ไกถี และ Tirhuta[37]
ในสิเลฏและ Bankura อักษรไกถีแบบดัดแปลงมีความโดดเด่นทางประวัติศาสตร์บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนมุสลิม อักษรที่ดัดแปลงในสิเลฏนั้นเหมือนกันกับอักษร Baitali Kaithi ของภาษาฮินดูสตานี เว้นแต่อักษรสิเลฏินาครีมีมาตรา[38] อักษรสิเลฏินาครีได้รับการกำหนดมาตรฐานสำหรับการพิมพ์เมื่อ ป. ค.ศ. 1869[9]
มีการใช้อักษรอาหรับหลายรูปแบบทั่วเบงกอลจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตั้งแต่จิตตะกองทางตะวันออกไปจนถึง Meherpur ทางตะวันตก[39][40][41] Nur Qutb Alam นักวิชาการราชสำนักของเบงกอลในคริสต์ศตวรรษที่ 14 แต่งบทกวีภาษาเบงกอลโดยใช้ชุดตัวอักษรเปอร์เซีย[42][43] หลังการแบ่งอินเดียในคริสต์ศตวรรษที่ 20 รัฐบาลปากีสถานพยายามสถาปนาอักษรเปอร์เซีย-อาหรับเป็นอักษรมาตรฐานสำหรับภาษาเบงกอลในปากีสถานตะวันออก แต่ได้รับการต่อต้านและมีส่วนสนับสนุนให้เกิดขบวนการภาษาเบงกอล[44]
Remove ads
ไวยากรณ์
คำนามในภาษาเบงกอลไม่มีการกำหนดเพศ ทำให้มีการผันคำน้อย คำคุณศัพท์ คำนาม และสรรพนามมี 4 การก คำกริยามีรูปแบบการผันมาก แต่ต่างจากภาษาฮินดีที่ไม่มีการผันคำกริยาตามเพศ
การเรียงลำดับคำ
ภาษาเบงกอลเรียงประโยคแบบประธาน-กรรม-กริยา เชื่อมคำในประโยคด้วยปรบท คำคุณศัพท์ จำนวนและการกแสดงความเป็นเจ้าของนำหน้าคำนาม คำถามแบบใช่/ไม่ใช่ ไม่ต้องมีการเปลี่ยนลำดับคำในประโยค
คำนาม
คำนามและคำสรรพนามมีการผันตามการกจำนวน 4 การกคือ ประธาน กรรม ความเป็นเจ้าของและแสดงตำแหน่ง มีการเติมคำนำหน้านามชี้เฉพาะได้แก่ -টা -ţa (เอกพจน์) หรือ -গুলা -gula (พหูพจน์) นามมีการผันตามจำนวนด้วย ภาษาเบงกอลมีลักษณนามเช่นเดียวกับภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีนและภาษาไทย ลักษณนามที่ใช้โดยทั่วไปคือ -টা –ţa แต่มีลักษณนามบางคำใช้กับนามเฉพาะ เช่น -জন –jon ใช้กับคน
คำกริยา
คำกริยาแบ่งได้เป็นสองระดับคือคือกริยาแท้และกริยาไม่แท้ กริยาไม่แท้ไม่มีการผันตามกาลของบุคคล ในขณะที่กริยาแท้มีการผันตามจุดมุ่งหมาย กาล และบุคคลแต่ไม่ผันตามจำนวน นอกจากนั้น ภาษาเบงกอลมีความต่างจากภาษาในกลุ่มภาษาอินโด-อารยันอื่น ๆ คือสามารถละกริยาที่เป็น verb to be แบบที่พบในภาษารัสเซียและภาษาฮังการี
Remove ads
คำศัพท์
ในภาษาเบงกอลมีคำศัพท์มากกว่า 100,000 คำ โดยครึ่งหนึ่งเป็นคำยืมจากภาษาสันสกฤต ราว 20% มีรากศัพท์ร่วมกับภาษาสันสกฤต ที่เหลือเป็นคำยืมจากภาษาอื่นโดยเฉพาะภาษาในตระกูลออสโตรเอเชียติก อย่างไรก็ตาม ในภาษาเบงกอลสมัยใหม่ นิยมใช้ศัพท์ที่มีรากศัพท์ร่วมกับภาษาสันสกฤต มากกว่าคำที่ยืมจากภาษาสันสกฤต ส่วนคำยืมมีที่ใช้น้อยลง
ในบริเวณเบงกอลเป็นบริเวณที่มีการติดต่อกับชาวต่างชาติมากมาย ทั้งชาวยุโรป อินเดียสมัยราชวงศ์โมกุล ชาวอาหรับ ชาวเติร์ก ชาวเปอร์เซีย ชาวอัฟกัน และชาวเอเชียตะวันออก ภาษาเบงกอลจึงมีคำยืมจากภาษาของกลุ่มชนเหล่านี้ ซึ่งต่างกันไปตามระดับของความใกล้ชิดในการติดต่อ มีการยืมคำจากภาษาของเพื่อนบ้าน เช่น ภาษาฮินดี ภาษาอัสสัม และภาษาในตระกูลออสโตรเอเชียติกโดยเฉพาะภาษาสันตาลี การรุกรานของเปอร์เซียและตะวันออกกลางทำให้มีคำยืมจากภาษาเปอร์เซีย ภาษาอาหรับ ภาษาตุรกี และภาษาปาทาน ในสมัยอาณานิคม ภาษาเบงกอลได้รับอิทธิพลจากภาษาในยุโรป เช่น ภาษาโปรตุเกส ภาษาฝรั่งเศส ภาษาดัตช์ และภาษาอังกฤษ
Remove ads
รูปแบบของภาษาพูดและภาษาเขียน
สรุป
มุมมอง
ภาษาเบงกอลเป็นภาษาที่มีความแตกต่างระหว่างภาษาพูดและภาษาเขียน ภาษาเขียนมีสองแบบคือ
- สาธุภาษา ((সাধুভাষা) เป็นรูปแบบการเขียนที่มีการผันคำกริยาแบบยาว และใช้ศัพท์ที่มาจากภาษาสันสกฤต เพลงชาติเป็นตัวอย่างการใช้สาธุภาษา แต่รูปแบบการเขียนสมัยใหม่ ไม่นิยมใช้สาธุภาษา
- ชลติภาษา (চলতিভাষা) เป็นรูปแบบการเขียนภาษาเบงกอลสมัยใหม่ ที่ใช้กริยาในรูปสั้น และเป็นภาษามาตรฐานในปัจจุบัน เริ่มใช้เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 24 สำเนียงที่ใช้เป็นพื้นฐานคือสำเนียงในศานติปุระ รัฐเบงกอลตะวันตก
ภาษาพูดของภาษาเบงกอลมีความหลากหลายเช่นเดียวกัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเบงกอลตะวันตกรวมทั้งในกัลกัตตาพูดสำเนียงมาตรฐานของภาษาเบงกอล ส่วนอื่น ๆ ของเบงกอลตะวันตกและทางตะวันตกของบังกลาเทศพูดสำเนียงที่มีความแตกต่างไปเล็กน้อย ในขณะที่คนส่วนใหญ่ในบังกลาเทศพูดสำเนียงที่ต่างไปจากภาษามาตรฐานโดยเฉพาะบริเวณจิตตะกอง นอกจากนั้น ชาวเบงกอลที่นับถือศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลามใช้ภาษาที่ต่างกัน ผู้นับถือศาสนาฮินดูนิยมใช้ศัพท์ที่มาจากภาษาสันสกฤต ส่วนมุสลิมนิยมใช้ศัพท์ที่มาจากภาษาอาหรับและเปอร์เซียแม้จะมีความหมายเหมือนกัน เช่น
- สวัสดี: nômoshkar (สันสกฤต) กับ assalamualaikum/slamalikum (อาหรับ)
- เชื้อเชิญ: nimontron/nimontonno (สันสกฤต) กับ daoat (อาหรับ)
- น้ำ : jol (สันสกฤต) กับ pani (สันสกฤต)
- พ่อ : baba (เปอร์เซีย) corresponds to abbu/abba (อาหรับ)
Remove ads
ตัวอย่าง
สรุป
มุมมอง
ข้อความข้างล่างนำมาจากปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนข้อที่ 1 ในภาษาเบงกอล:
সমস্ত
Sômôstô
ʃɔmosto
All
মানুষ
manush
manuʃ
human
স্বাধীনভাবে
shadhinbhabe
ʃadʱinbʱabe
free-manner-in
সমান
sôman
ʃoman
equal
মর্যাদা
môrjada
mɔɾdʒada
dignity
এবং
ebông
eboŋ
and
অধিকার
ôdhikar
odʱikaɾ
right
নিয়ে
niye
nie̯e
taken
জন্মগ্রহণ
jônmôgrôhôn
dʒɔnmoɡrohon
birth-take
করে।
kôre.
kɔɾe
do.
তাঁদের
Tãder
tãdeɾ
Their
বিবেক
bibek
bibek
reason
এবং
ebông
eboŋ
and
বুদ্ধি
buddhi
budʱːi
intelligence
আছে;
achhe;
atʃʰe
exist;
সুতরাং
sutôrang
ʃutoraŋ
therefore
সকলেরই
sôkôleri
ʃɔkoleɾi
everyone-indeed
একে
êke
ɛke
one
অপরের
ôpôrer
ɔporeɾ
another's
প্রতি
prôti
proti
towards
ভ্রাতৃত্বসুলভ
bhratrittôsulôbh
bʱratritːoʃulɔbʱ
brotherhood-ly
মনোভাব
mônobhab
monobʱab
attitude
নিয়ে
niye
nie̯e
taken
আচরণ
achôrôn
atʃorɔn
conduct
করা
kôra
kɔra
do
উচিত।
uchit.
utʃit
should.
มนุษย์ทั้งปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรี และสิทธิ ต่างในตนมีเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัติต่อกันด้วยจิตวิญญาณแห่งภราดรภาพ
อ้างอิง
อ่านเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads